The Pianist สงครามนั้นโหดร้าย

"ดนตรีช่วยชีวิตคนได้" ข้อความนี้ไม่ได้มีความหมายในทางนามธรรมหรือในทางเปรียบเทียบอะไรทั้งนั้นเมื่อพูดถึงหนังเรื่อง The Pianist

หนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งในหลายๆ เรื่องที่สะท้อนภาพความโหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง ในเหตุการณ์กวาดต้อนและสังหารหมู่ชาวยิวจำนวนหลายล้านคนในหลายประเทศ วาลดี้ สปิลแมนเป็นนักเปียโนชาวยิวในโปแลนด์คนหนึ่งที่ต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์นี้ และเอาชีวิตรอดมาได้ด้วยความอึด ความสามารถส่วนตัว และโชคช่วย


พอได้รู้ว่าหนังเป็นเรื่องเกี่ยวกับชาวยิวในสงครามโลกครั้งที่สอง ความรู้สึกแรกคือไม่อยากดู หลังๆ มานี่แทบไม่อยากดูหนังที่ตึงเครียดหรือหดหู่ เพราะชีวิตจริงก็เครียดพออยู่แล้ว อีกอย่างก็คือพักหลังมานี่ พอได้ดูหนังแนวนี้ก็มักจะนับเวลาถอยหลังว่าเมื่อไรจะจบซะที เบื่อมากๆ

ตัดสินใจมาดูก็ตอนได้ดูคลิปใน youtube ฉากที่วาลดี้ (รับบทโดยเอเดรียน โบรดี้) เล่นเปียโนแบบไร้เสียง ในยามที่ต้องหลบซ่อนตัว และฉากที่เขาเล่นเปียโนให้ทหารเยอรมันฟัง

ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ ก็แค่ชอบเปียโน กำลังเรียนเปียโน และเขาก็เล่นเปียโนได้ไพเราะเหลือเกิน


หนังเรื่องนี้ผิดคาดตรงที่ไม่น่าเบื่อ และน่าติดตามตลอดเรื่องจนลืมเวลาไปเลย เรื่องราวดำเนินไปจากชีวิตของวาลดี้ที่มองโลกในแง่ดี เข้มแข็ง มีครอบครัวขนาดใหญ่ จนเมื่อทหารนาซีบุกเข้าโปแลนด์ ชีวิตของเขาก็เริ่มตกต่ำลงเรื่อยๆ ตั้งแต่การต้องย้ายไปอยู่ในชุมชนชาวยิว การถูกส่งตัวไปแคมป์เพื่อกำจัด โดยมีวาลดี้รอดจากขบวนรถไฟแห่งความตายมาได้เพียงคนเดียว

ด้วยสภาพของนักเปียโน การทำงานหนักจึงไม่ใช่เรื่องถนัด แต่เขาก็พยายามดิ้นรนเอาตัวรอด จนได้ความช่วยเหลือจากเพื่อนชาวโปแลนด์ที่ไม่ใช่ยิวในการซ่อนตัวเขาไว้ จนกระทั่งเพื่อนๆ เองก็ถูกกำจัดหรือไม่ก็หลบหนีออกจากเมืองไป


ในที่สุดเมื่ออยู่ตัวคนเดียว เขาก็ต้องกระเสื่อกกระสนเอาชีวิตรอดในทุกวิถีทาง ทั้งอดอยากหิวโหย บาดเจ็บ โดดเดี่ยว 

ในช่วงท้ายของเรื่อง เขารอดชีวิตจากความตายมาได้เนื่องจากเสียงดนตรีที่เขาเล่นให้กับนายทหารเยอรมันคนหนึ่งฟัง เสียงเพลงนั้นทำให้เขาผ่านช่วงเวลาแห่งสงครามโลกครั้งที่สองมาจนสำเร็จ ทั้งที่ชีวิตช่วงท้ายของเขามันช่างลำเค็ญและหดหู่จนน่าจะตายไปให้รู้แล้วรู้รอด 

ฉันไม่ใช่คนที่เก่งกาจเรื่องของดนตรีอะไรนักหนา แต่ถ้าได้ดูฉากที่เขาเล่นเปียโนช่วยชีวิต เพลงนั้นช่างพริ้วไหว ได้อารมณ์มากๆ ไม่ใช่คนสักแต่เล่นให้ถูกต้องตามโน้ต แต่ไร้อารมณ์ในเสียงเพลง จนฟังกระด้าง ไม่เพราะแม้แต่น้อย 

จนบัดนี้ยังประทับใจกับฉากนั้นอยู่เลย 








SomewhereOnEarth

เป็นคนชอบหลายอย่าง ทั้งแมว หนังสือ หนัง ซีรี่ส์ เกม ต้นไม้ ถ่ายภาพ วาดรูป ฯลฯ เลยเริ่มต้นทำบล็อกเพื่อเล่าเรื่อง ส่วนหนึ่งเพื่อตัวเอง เพราะเป็นคนขี้ลืม บางเรื่องย้อนกลับมาอ่านยังเหมือนอ่านเรื่องของคนอื่นยังไงยังงั้น อีกส่วนเพื่อแบ่งปันเรื่องราวกับผู้อื่น นอกจากนี้ยังติดตามเราได้ที่ https://www.youtube.com/taotuatoe

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า