19 นาที หรือ Nineteen Minutes

พักหลังมานี่ เวลาเจอนวนิยายที่มีความหนามากเกิน 1 นิ้ว (โดยประมาณ) ฉันมักจะเลี่ยงไม่ยอมซื้ออ่าน เพราะอาการติดพันยามได้อ่านมันช่างทรมานจริงๆ พยายามหยิบมาอ่านทุกเวลาที่หาเจอ อ่านกันดึกดื่นเที่ยงคืน ตื่นมาแบบไม่สดใส ยิ่งถ้าเป็นตอนที่มีงานต้องทำ ก็ยิ่งต้องอาลัยตัดใจจากมันชั่วคราว

เห็นหนังสือ 19 : นาที มานานแล้วในร้านหนังสือ ราคาเอาเรื่องอยู่ ถ้าอ่านไม่สนุกก็คงเสียดายเงินอีกแล้ว ไปพบหนังสือเล่มนี้ที่งานสัปดาห์หนังสือฯ ครั้งล่าสุด ในราคาครึ่งเดียว ก็หอบหิ้วกลับบ้านมาดองไว้อีกเกือบเดือน

หนังสือเล่มนี้นำเอาฉากของการกราดยิงนักเรียนในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งขึ้นมาเป็นหลัก แล้วแจกแจงเล่าเรื่องราวของผู้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวนี้ออกมาทีละนิด 

ปีเตอร์ ฮัฟตัน คือมือปืนผู้สังหารเพื่อนร่วมโรงเรียนไป 10 คนและทำร้ายไปอีกหลายสิบคน บางคนถึงขั้นพิการไปชั่วชีวิต เบื้องหลังเหตุการณ์คือเรื่องราวของปีเตอร์ที่อาจทำให้คุณทั้งสงสารและเกลียดชังในเวลาเดียวกัน

เขาใช้เวลาไปกับการสังหารหมู่นี้เป็นเวลา 19 นาที

เชื่อว่าเราแทบทุกคนคงเคยได้ดูหนังวัยรุ่นอเมริกันที่มักมีพวกนักกีฬาที่ชอบรังแกคนอ่อนแอ และในท้ายที่สุดคนอ่อนแอนั้นก็พิสูจน์ตัวเองว่าไม่ใช่พวกขี้แพ้ได้สำเร็จในตอนจบของเรื่อง หนังสือเรื่องนี้ก็เล่าเรื่องราวเดียวกัน แต่เป็นด้านที่รันทดของ "พวกขี้แพ้" ที่ไม่มีวันจะได้ยืนหยัดอย่างมั่นคงในโลกที่บิดเบี้ยวใบนี้ได้

ในชีวิตของเด็กวัยรุ่นที่มีความเปราะบางทางด้านอารมณ์ เมื่อมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการแบ่งกลุ่มคนเป็นหลายระดับ ทั้งเด็กเรียน เด็กพิเศษ นักกีฬา คนเด่นดัง พวกขี้แพ้ พวกเขาจึงมีวิธีการรับมือและปกป้องตัวเองในรูปแบบที่ต่างกันออกไป 


แม้แต่ในกลุ่มของเด็กที่เด่นดังเองก็ยังมีจุดเปราะบาง ที่หากเขาไม่ได้รับการยอมรับจากกลุ่ม เขาก็จะถูกกีดกันออกไป ดังนั้นหนทางหนึ่งก็คือหาเหยื่อเพื่อเป็นที่รองรับ ซึ่งพวกขี้แพ้ก็เป็นคนที่ถูกเลือกเพราะมักไม่มีกำลังกายและใจที่จะปกป้องตัวเองได้ หากไม่ต้องการเป็นพวกขี้แพ้เขาก็ต้องลุกขึ้นมากลั่นแกล้งผู้อื่นเพื่อเปลี่ยนหมวดหมู่ของตัวเองเสียใหม่

ซ้ำร้าย ครูที่น่าจะเป็นผู้ที่รู้เห็นและช่วยเหลือกลับทำตัวล่องหน ไม่รับรู้ปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้น

ดังนั้นเมื่อปีเตอร์ถูกกลั่นแกล้งจนถึงจุดที่ไม่อาจทนได้ต่อไป เขาจึงเลือกที่จะลุกขึ้นมาปกป้องตัวเองด้วยปืน เปลี่ยนสถานะจากเหยื่อมาเป็นผู้ล่า และชีวิตของทุกคนที่เกี่ยวข้องก็ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป 

ปีเตอร์ไม่ใช่คนเดียวและคนสุดท้ายที่ถูกกลั่นแกล้งจากสถานะที่สมมติขึ้นในสังคมเล็กๆ นี้ ยังมีนักเรียนอีกหลายคนที่ตกเป็นเหยื่อเช่นเขา 

และเมื่อมองในสังคมที่ใหญ่ขึ้น เราก็ยังคงมองเห็นบุคคลเช่นปีเตอร์อีกมากมาย บางทีอาจเป็นคนใกล้ตัวหรืออาจเป็นตัวเราเอง 






ความคิดเห็น