ในที่สุด อาการคันก็กลับมากำเริบ มาทั้งอาการระคายคอ หลังจากได้ข่าว PM 2.5 มาเยือนได้ไม่นาน
อยากได้ต้นไม้ อยากได้ความร่มรื่นให้กับปอด หมู่บ้านนี้อยู่ริมถนนในซอยที่รถแล่นผ่านกันขวักไขว่ โดยเฉพาะเช้า-เย็น ช่วงรถติด บ้านฉันเองก็อยู่ไม่ไกลจากถนนเส้นนี้ อาการจึงกำเริบบ่อยครั้ง ถ้าเทียบกับหมู่บ้านเก่าที่อยู่ห่างจากถนนมากพอสมควร อีกทั้งบ้านหลังนั้นฉันกับแฟนก็ปลูกต้นไม้เยอะมาก จนดูแลไม่ไหว พอย้ายมาบ้านนี้ก็เลยลดการปลูกต้นไม้ลงเยอะเลย
ในหมู่บ้านเองก็มีต้นไม้อยู่น้อย เมื่ออาทิตย์ก่อน ตีนเป็ดน้ำหน้าบ้านฝั่งตรงข้ามก็ถูกตัดซะเกือบโกร๋นซะหลายต้น (หมู่บ้านเขาปลูกตีนเป็ดน้ำให้หน้าบ้านของทุกบ้าน) เนื่องจากมันสูงจนไปชนสายเคเบิ้ลหลายยี่ห้อ ก็เลยยิ่งร้อน ยิ่งแล้ง ยิ่งอากาศแย่เข้าไปกันใหญ่
เมื่อก่อนฉันอิจฉาบ้านอื่นที่ตีนเป็ดน้ำเขาเป็นพุ่มสวยงาม เพราะที่หน้าบ้านฉัน เพิ่งจะฟื้นจากอาการปางตาย มีใบหรอมแหรม ตอนนี้ฉันไม่อิจฉาแล้ว ได้แต่ถอนหายใจ
เหล่านี้จึงนำมาเข้าเรื่องของวันนี้ เสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563
เมื่อวานจู่ๆ ก็เกิดอาการต้องการอากาศบริสุทธิ์ในบ้าน ทำยังไงล่ะ เคยปลูกต้นไม้ในบ้าน แล้วมีปัญหาเรื่องรดน้ำ เลยคิดถึงว่าปลูกไม้น้ำไปเลยละกัน
ก่อนหน้านี้ฉันก็เอาพลูด่างหลายสายพันธุ์มาปักน้ำวางในห้องทำงานแล้ว ก็แลดูดี ไว้จะหาปุ๋ยน้ำมาใส่ให้ พลูด่างนี้เหมาะมากๆ สำหรับการปักชำเลี้ยงในน้ำ และยังเป็นไม้ดูดสารพิษได้ดีอีกด้วย
ลำบากตรงต้องหามุมวางยังไงไม่ให้แมวทำล้มหล่นแตกกระจาย มันท้าทายมากๆ เชียวล่ะ
หลังจากนั้นก็คิดว่าจะหากระปุกพลาสติกมาใส่น้ำปลูกพลูด่างเยอะ แล้วห้อยไว้ที่ระเบียงชั้น 2 เพื่อช่วยดูดซับสารพิษก่อนเข้าบ้าน ที่ต้องเป็นกระปุกพลาสติกก็เพราะน้ำหนักเบา แขวนห้อยได้ เป็นไม้น้ำเพราะชั้น 2 รดน้ำลำบาก ที่เลือกพลูด่างเพราะมีปลูกอยู่แล้ว ในกระถางดินห้อยไว้หลังบ้าน แต่...แต่ก็ต้องหาอะไรมาพรางแสงสักหน่อย ดูแล้วพลูด่างไหม้แน่ถ้าโดนแดดจัดๆ ที่ระเบียง เล็งไว้คือมู่ลี่ไม้ไผ่ที่ร้านสินค้าญี่ปุ่น ราคาม้วนละ 100 บาท ต้องใช้ 4 ม้วน ...อ๊ากกก รอก่อนละกัน
ในระหว่างที่ยังไม่ได้ไปหาซื้อกระปุกพลาสติกและมู่ลี่ไม้ไผ่ เมื่อวานก็หาข้อมูลต้นไม้อื่นๆ นอกเหนือจากพลูด่าง ก็มีหลายต้นอยู่ที่ปลูกได้
พ่วงด้วยการหาข้อมูลการปลูกไม้ดินในน้ำ เป็นเว็บภาษาอังกฤษ โดยสรุปก็คือ หาไม้ที่ปลูกในน้ำได้ น้ำต้องไม่ใช่น้ำประปา (ฉันเลยใช้วิธีเอาน้ำกรอง หรือน้ำประปาตากแดดสัก 3-4 วัน) ใช้โหลแก้ว มีหินหรืออย่างอื่นคอยค้ำจุนไม้ไว้ กับ... อะไรอีกล่ะ จำไม่ได้แล้ว 5555
วันนี้ก็เลยลงมือทำกันเลย โดยเงื่อนไขของงานนี้คือ
- ต้องใช้ของที่มีอยู่แล้ว ห้ามซื้อเพิ่ม
- ต้นไม้ก็หาจากที่มีในบ้าน เปลี่ยนจากไม้ดินมาเป็นไม้น้ำ นั่นคือต้องเป็นต้นที่ปลูกในน้ำได้
- ต้นไม้ต้องปลอดจากหนอน คือหนอนไม่ชอบอ่ะ (ถ้าเงื่อนไขนี้ทำไม่ได้ ก็ไม่เอา สำคัญสุดๆ)
- ถ้าเป็นไม้ดูดสารพิษได้ยิ่งดี
ก็ได้นี่เลย กระถางเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้ช่วยพยุงไม้ไว้ให้อยู่เหนือน้ำ ให้รากจุ่มน้ำเท่านั้น หินไว้ช่วยพยุงลำต้น พวกขวดโหลแก้ว แก้วน้ำ ก็หาจากในบ้านนี่แหละ เยอะ!
หลังจากนั้นก็หาต้นไม้มาทดลองกัน ก็ได้แก่ Spider Plant ชื่อไทยคือเศรษฐีเรือน...ในหรือนอก จำไม่ได้ ชื่อภาษาอังกฤษจำง่ายกว่าเยอะเลย, เดหลี, พรมญี่ปุ่น, ริพซาลิส (Rhipsalis) หรือป๊อบอาย และที่ขาดไม่ได้ พลูด่างหลากหลายสายพันธุ์ที่กิ่งก้านเริ่มยาว เลยตัดออกมาปักน้ำซะเลย
ตอนนี้อยู่ในขั้นทดลอง ว่าต้นไหนจะรอด ต้นไหนไม่รอด แลดูโหดร้ายจังเลย ขอโทษนะต้นไม้ รอดให้ได้ทุกต้นน้าาาาาา
เป้าหมายต่อไปคือสวนไม้แขวนบนระเบียงชั้นบน ว่าจะแบ่งจั๋งกับหมากเหลืองใส่กระถางมาวางระเบียงอีก 2 ต้นด้วยก็น่าจะดี
อยากได้ต้นไม้ อยากได้ความร่มรื่นให้กับปอด หมู่บ้านนี้อยู่ริมถนนในซอยที่รถแล่นผ่านกันขวักไขว่ โดยเฉพาะเช้า-เย็น ช่วงรถติด บ้านฉันเองก็อยู่ไม่ไกลจากถนนเส้นนี้ อาการจึงกำเริบบ่อยครั้ง ถ้าเทียบกับหมู่บ้านเก่าที่อยู่ห่างจากถนนมากพอสมควร อีกทั้งบ้านหลังนั้นฉันกับแฟนก็ปลูกต้นไม้เยอะมาก จนดูแลไม่ไหว พอย้ายมาบ้านนี้ก็เลยลดการปลูกต้นไม้ลงเยอะเลย
ในหมู่บ้านเองก็มีต้นไม้อยู่น้อย เมื่ออาทิตย์ก่อน ตีนเป็ดน้ำหน้าบ้านฝั่งตรงข้ามก็ถูกตัดซะเกือบโกร๋นซะหลายต้น (หมู่บ้านเขาปลูกตีนเป็ดน้ำให้หน้าบ้านของทุกบ้าน) เนื่องจากมันสูงจนไปชนสายเคเบิ้ลหลายยี่ห้อ ก็เลยยิ่งร้อน ยิ่งแล้ง ยิ่งอากาศแย่เข้าไปกันใหญ่
เมื่อก่อนฉันอิจฉาบ้านอื่นที่ตีนเป็ดน้ำเขาเป็นพุ่มสวยงาม เพราะที่หน้าบ้านฉัน เพิ่งจะฟื้นจากอาการปางตาย มีใบหรอมแหรม ตอนนี้ฉันไม่อิจฉาแล้ว ได้แต่ถอนหายใจ
เหล่านี้จึงนำมาเข้าเรื่องของวันนี้ เสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563
เมื่อวานจู่ๆ ก็เกิดอาการต้องการอากาศบริสุทธิ์ในบ้าน ทำยังไงล่ะ เคยปลูกต้นไม้ในบ้าน แล้วมีปัญหาเรื่องรดน้ำ เลยคิดถึงว่าปลูกไม้น้ำไปเลยละกัน
ก่อนหน้านี้ฉันก็เอาพลูด่างหลายสายพันธุ์มาปักน้ำวางในห้องทำงานแล้ว ก็แลดูดี ไว้จะหาปุ๋ยน้ำมาใส่ให้ พลูด่างนี้เหมาะมากๆ สำหรับการปักชำเลี้ยงในน้ำ และยังเป็นไม้ดูดสารพิษได้ดีอีกด้วย
ลำบากตรงต้องหามุมวางยังไงไม่ให้แมวทำล้มหล่นแตกกระจาย มันท้าทายมากๆ เชียวล่ะ
หลังจากนั้นก็คิดว่าจะหากระปุกพลาสติกมาใส่น้ำปลูกพลูด่างเยอะ แล้วห้อยไว้ที่ระเบียงชั้น 2 เพื่อช่วยดูดซับสารพิษก่อนเข้าบ้าน ที่ต้องเป็นกระปุกพลาสติกก็เพราะน้ำหนักเบา แขวนห้อยได้ เป็นไม้น้ำเพราะชั้น 2 รดน้ำลำบาก ที่เลือกพลูด่างเพราะมีปลูกอยู่แล้ว ในกระถางดินห้อยไว้หลังบ้าน แต่...แต่ก็ต้องหาอะไรมาพรางแสงสักหน่อย ดูแล้วพลูด่างไหม้แน่ถ้าโดนแดดจัดๆ ที่ระเบียง เล็งไว้คือมู่ลี่ไม้ไผ่ที่ร้านสินค้าญี่ปุ่น ราคาม้วนละ 100 บาท ต้องใช้ 4 ม้วน ...อ๊ากกก รอก่อนละกัน
ในระหว่างที่ยังไม่ได้ไปหาซื้อกระปุกพลาสติกและมู่ลี่ไม้ไผ่ เมื่อวานก็หาข้อมูลต้นไม้อื่นๆ นอกเหนือจากพลูด่าง ก็มีหลายต้นอยู่ที่ปลูกได้
พ่วงด้วยการหาข้อมูลการปลูกไม้ดินในน้ำ เป็นเว็บภาษาอังกฤษ โดยสรุปก็คือ หาไม้ที่ปลูกในน้ำได้ น้ำต้องไม่ใช่น้ำประปา (ฉันเลยใช้วิธีเอาน้ำกรอง หรือน้ำประปาตากแดดสัก 3-4 วัน) ใช้โหลแก้ว มีหินหรืออย่างอื่นคอยค้ำจุนไม้ไว้ กับ... อะไรอีกล่ะ จำไม่ได้แล้ว 5555
วันนี้ก็เลยลงมือทำกันเลย โดยเงื่อนไขของงานนี้คือ
- ต้องใช้ของที่มีอยู่แล้ว ห้ามซื้อเพิ่ม
- ต้นไม้ก็หาจากที่มีในบ้าน เปลี่ยนจากไม้ดินมาเป็นไม้น้ำ นั่นคือต้องเป็นต้นที่ปลูกในน้ำได้
- ต้นไม้ต้องปลอดจากหนอน คือหนอนไม่ชอบอ่ะ (ถ้าเงื่อนไขนี้ทำไม่ได้ ก็ไม่เอา สำคัญสุดๆ)
- ถ้าเป็นไม้ดูดสารพิษได้ยิ่งดี
ก็ได้นี่เลย กระถางเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้ช่วยพยุงไม้ไว้ให้อยู่เหนือน้ำ ให้รากจุ่มน้ำเท่านั้น หินไว้ช่วยพยุงลำต้น พวกขวดโหลแก้ว แก้วน้ำ ก็หาจากในบ้านนี่แหละ เยอะ!
หลังจากนั้นก็หาต้นไม้มาทดลองกัน ก็ได้แก่ Spider Plant ชื่อไทยคือเศรษฐีเรือน...ในหรือนอก จำไม่ได้ ชื่อภาษาอังกฤษจำง่ายกว่าเยอะเลย, เดหลี, พรมญี่ปุ่น, ริพซาลิส (Rhipsalis) หรือป๊อบอาย และที่ขาดไม่ได้ พลูด่างหลากหลายสายพันธุ์ที่กิ่งก้านเริ่มยาว เลยตัดออกมาปักน้ำซะเลย
ตอนนี้อยู่ในขั้นทดลอง ว่าต้นไหนจะรอด ต้นไหนไม่รอด แลดูโหดร้ายจังเลย ขอโทษนะต้นไม้ รอดให้ได้ทุกต้นน้าาาาาา
เป้าหมายต่อไปคือสวนไม้แขวนบนระเบียงชั้นบน ว่าจะแบ่งจั๋งกับหมากเหลืองใส่กระถางมาวางระเบียงอีก 2 ต้นด้วยก็น่าจะดี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น