ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Somewhere on Earth

ค้นหาบล็อกนี้

sunny day on earth

ใน มกราคม 20, 2553

รับลิงก์
Facebook
X
Pinterest
อีเมล
แอปอื่นๆ

ถ่ายภาพ Photography

รับลิงก์
Facebook
X
Pinterest
อีเมล
แอปอื่นๆ

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

Lost บทสรุปและ..สปอยล์...เขียนไว้เตือนความจำตัวเอง

จำได้ว่าครั้งก่อนเมื่อดู lost ตอนสุดท้ายจบ มันเต็มไปด้วยความขัดข้องว่าทำไมถึงจบแบบนี้ ฉันจำเนื้อหาไม่ได้ จำได้แต่ความรู้สึก จึงทำให้ไม่อยากดูอีกต่อไป คำเตือน : สปอยล์แน่นอน ฉันตัดสินใจกลับมาดูรอบ 2 ก็เพราะบังเอิญไปพบกับทฤษฏีหนึ่งเข้าบนเน็ต นั่นคือทฤษฏีที่บอกว่าหลังจากเกาะถูกระเบิดไป ทำให้เกิดไทม์ไลน์หรือเส้นเวลาใหม่ขึ้น ขนานไปกับเส้นเวลาเดิม ชีิวิตที่เครื่องบินโอเชียนิคไม่ตก / ชีวิตที่อยู่บนเกาะ ฉันจำรายละเอียดไม่ได้แน่นอน เหมือนประมาณเป็นจักรวาลคู่ขนาน เรื่องราวบนเกาะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วและไม่ได้ถูกลบทิ้งไปเพียงเพราะเกาะถูกระเบิดไปในยุค 1970 แต่มันทำให้เกิดช่วงเวลาใหม่ขึ้นที่จุดระเบิดนั้น เป็นจุดที่ทำให้ชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกันออกไปจากที่เคยเป็น เช่นซอว์เยอร์ไม่ได้เป็นนักต้มตุ๋น แต่เป็นตำรวจ และคนอื่นก็เปลี่ยนไปเช่นกัน โดยมีรายละเอียดที่มากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป เมื่อทุกคนมาเจอกันบนเครื่องบินที่ไม่ได้ตกแม้จะจำกันไม่ได้ในตอนเริ่มต้น แต่สิ่งที่เกิดไปแล้วก็ยังคงอยู่ มันจึงเกิดเป็นภาพความทรงจำที่ย้อนกลับคืนสู่พวกเขาทุกคน นั่...

You Should Have Left (2020) : บ้านคือภาพสะท้อนของหัวใจ

ตอนเปิดดูเรื่องนี้ You Should Have Left บน HBO go คือไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ดูฆ่าเวลา แต่กลับกลายเป็นว่าชอบเลยล่ะ เรื่องราวของธีโอ (โดย เควิน เบคอน) นักธุรกิจผู้ร่ำรวย กับนักแสดงสาวซูซานน่า (อแมนดา ไซฟริด) และลูกน้อยอีก 1 คน ในเรื่องธีโอเป็นสามีที่อายุมากกว่าเยอะ และเคยมีข่าวไม่ดีติดตัว ในเรื่องการตายอย่างน่ากังขาของภรรยาคนแรกของเขา ส่วนซูซานน่าเป็นนักแสดงสาวที่ท่าทางเป็นคนร่าเริง ทั้งคู่มีลูกคนหนึ่งชื่อเอลล่า ด้วยความที่เป็นนักแสดงสาวบางทีก็มีบทเลิฟซีนในขณะถ่ายทำหนัง ซึ่งทำให้สามีอายุมากไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร มีระหองระแหงกันบ้างเป็นปกติ ทั้งคู่ก็เลยตัดสินใจไปพักผ่อนในเวลช์ โดยการเช่าบ้านหลังหนึ่งทางอินเทอร์เน็ต บ้านหลังนั้นอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง (ที่เป็นเมืองชนบทเล็กๆ แห่งหนึ่ง) หน้าตาทันสมัย ไม่มีอะไรน่ากลัว แต่ภายในซ่อนความลึกลับไว้ แต่ละวัน-คืนที่ผ่านไป บ้านก็เริ่มเปิดเผยตัวเองออกมาทีละน้อย เป็นความหลอน มันกลืนกินคนที่มาอาศัย และหนีจากไปไม่ได้ +++++++++++++++++++++ ดูเรื่องนี้แล้วก็ย้อนกลับมามองตัวเอง ฉันเป็นคนที่มักฝันถึงบ้านบ่อยครั้ง หมายถึงฝันตอนกลางคืนนะไม่...

หัวใจแทบสลายเพราะ Red Dog

คิดผิดเอามากๆ ที่ดูเรื่อง Red Dog เอาในวันที่หดหู่ เพราะมันทำให้จิตใจฉันแทบสลาย แม้ว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินไปอย่างเบาๆ ในแนวเหนือจริงเล็กๆ เนื่องจากเรื่องของเจ้าหมาเรดด๊อกนั้นส่วนหนึ่งเป็นเหมือนตำนาน เป็นเรื่องเล่า ดังนั้นจึงมีเรื่องที่เป็นเหมือน "เขาเล่าว่า" ที่หาหลักฐานมาอ้างอิงไม่ได้ เหมาะเจาะกับการแทรกเรื่องโม้ๆ เข้าไปในชีวิตของเจ้าเรดได้ Red dog เป็นหมาที่มีอยู่จริง และเป็นเหมือนตำนานของออสเตรเลีย เรื่องราวของเรดปรากฏอยู่ในช่วงทศวรรษที่ 1970 ในเมืองพิบาล่า ทางตะวันตกของออสเตรเลีย ในตำนานว่าไว้ว่ามันเป็นหมาเดินทางที่มีคนพบเห็นทั่วแถบตะวันตกของออสเตรเลีย มันเคยมีเจ้านาย 2 คน และเมื่อเจ้านายคนที่สองเสียชีวิต มันก็ออกเดินทางไปทั่วจนเกิดเป็นตำนานของเรดด๊อก ปัจจุบันก็ยังคงมีรูปปั้นของเจ้าเรดให้เห็นอยู่ สาเหตุที่มันชื่อเรดด๊อกก็เพราะว่าขนของมันเป็นสีแดงจากฝุ่นในพื้นที่แถบนั้น มีนักเขียนหลายคนนำเรื่องราวของมันไปร้อยเรียงเป็นเรื่องราวในหนังสือ โดยฉบับของ Louis de Bernières เป็นฉบับที่นำเอามาทำเป็นหนังเรื่องนี้ เรื่องเล่าว่าเจ้าเรดมาอยู่ในกลุ่มของคนงานเหมืองที่อพยพมา...

ขับเคลื่อนโดย Blogger