เหนื่อยมากจริงๆ กับการใช้ชีวิตในฝูงชน วันนี้ต้องไปงานศพของพ่อเพื่อน เนื่องจากกะเวลาไม่ถูกก็เลยออกไปก่อนเวลานานมาก การเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าถือเป็นวิธีฆ่าเวลาสำหรับคนกรุงโดยแท้จริง
พอเดินเข้าไปฉันก็เจอเข้ากับฝูงชนจำนวนมากที่เดินกันขวักไขว่ และเสียงของพริตตี้ (ของสินค้าอะไรสักอย่าง) กำลังแผดเสียงสูงแหลมแบบไม่มีช่วงเว้นวรรค
ปฏิกิริยาแรกคือ มึนงง ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะเดินไปทางไหน การจับทิศทางล้มเหลว ทำให้เดินชนกับคนข้างหน้าบ่อยครั้ง เนื่องจากเดินไปพลางเหลียวมองไปรอบตัวตลอดเวลา มึนกับสิ่งที่มองเห็นและงงกับเสียงที่แผดอยู่ในหู
จนในที่สุดต้องตั้งสติบอกตัวเองว่าเดินไปข้างหน้า ไปที่ไหนก่อนก็ได้ ไปหาที่ที่มันสงบๆ ก่อนที่จะถูกรุมเหยียบจากผู้คนรอบข้าง
นี่ไม่ใช่อาการที่เป็นแต่กำเนิด ฉันเกิดในกรุงเทพ คุ้นกับห้างสรรพสินค้ามาตั้งแต่เด็ก เดินไปไหนมาไหนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แม้จะเป็นห้างที่ไม่เคยไปก็จับทิศทางได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่นี่เป็นอาการของฉันในอีกเกือบสิบปีหลังจากมาใช้ชีวิตอยู่อย่างสันโดษภายในบ้านนอกเมือง หรือที่เรียกว่าเขตปริมณฑล วันๆ ก็วุ่นแต่กับแมว 4 ตัว กับสามีอีก 1 คน ไปไหนมาไหนแถวนี้ก็ไม่เคยต้องเจอคนเยอะแยะมากมายอะไร ก็แค่เดินสวนกันปกติ ไปห้างก็เลือกวันที่ไม่ใช่วันหยุด ขนาดงานสัปดาห์หนังสือฯ ก็เลือกไปตอนเช้าๆ ของวันทำงาน จะได้ไม่วุ่นวาย
ได้ดูคลิปหรือภาพบนเน็ตที่แสดงให้เห็นกลุ่มคนหนาแน่นจนเดินเบียดกันไปมาช่วงสงกรานต์ในแหล่งดังๆ แล้วนึกสยองว่าเขาสนุกกันตรงไหน
ตอนนี้ฉันกลับมานั่งสงบๆ ที่บ้านด้วยความสบายใจ ไม่อยากฟังเพลงหรือพูดคุย ขอแค่ความสงบกลับคืนมาสู่ชีวิตเท่านั้นก็พอ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น