Water for Elephants มายา รัก ละครสัตว์


กว่าจะตัดสินใจซื้อเล่มนี้มาอ่านก็ใช้เวลานานพอสมควร จริงๆ แล้วไม่เคยคิดเลยว่าจะซื้อมาอ่าน เพราะไม่คิดว่าจะชอบ แต่ด้วยความที่อยากหา "อะไร" สักอย่างมาอ่านเพื่อความสนุก โดยมีเงื่อนไขคือต้องไม่ใช่แวมไพร์ แม่มด พ่อมด เวทมนต์ หรือแฟนตาซีทั้งหลาย ...จึงรู้ว่า หายากจังนะ แถมฉันเองยังไม่ใช่คนที่ชอบอ่านนิยายรักหวานหยดทุกประเภทเสียอีก

พอได้อ่านก็ติดหนึบ อย่างที่บอกว่าไม่ชอบนิยายรัก แต่รักในหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่รักแบบพอเห็นหน้ากันก็อยากจะโผเข้าหากันอย่างเดียว มันเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง

เนื้อหาส่วนใหญ่จะเน้นบรรยายชีวิตของทีมงานในคณะละครสัตว์ในยุคหลายสิบปีก่อนของประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านสายตาของจาคอบ แจนโคสกี้ นักศึกษาสัตวแพทย์ที่เกือบเรียนจบจากคอร์แนล (ขาดอีกนิ๊ดเดียว) แต่เมื่อพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตกะทันหันและหมดตัวภายในชั่วข้ามคืน เขาจึงเตลิดเปิดเปิง และบังเอิญได้กระโดดเกาะรถไฟคณะละครสัตว์ไปใช้ชีวิตกึ่งกรรมกรกึ่งสัตวแพทย์อยู่นานถึงสามเดือนกว่า

ที่นี่เขาได้พบกับชีวิตหลากหลายรูปแบบทั้งของคนและสัตว์

เนื้อหาบรรยายถึงชีวิตของชาวคณะละครสัตว์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องของการแบ่งชนชั้น ที่แต่ละชั้นนั้นห้ามสุงสิงกัน ห้ามกินอาหารโต๊ะเดียวกัน ห้ามนอนตู้นอนเดียวกัน อย่างเด็ดขาด แม้กระทั่งตอนที่เงินไม่พอจ่าย กรรมกรจะเป็นกลุ่มที่ต้องอดได้เงินอยู่เพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น

เจ้าของคณะชื่อลุงอัล เป็นพวกพ่อค้าจริงๆ ที่คิดถึงแต่เรื่องผลกำไร หากใครที่เป็นตัวถ่วงและไม่เป็นที่ต้องการแล้วในคณะฯ และเน้นว่าต้องเป็นพวกกรรมกรจะต้องโดน "ไฟแดง" หรือการโยนพวกเขาลงจากรถไฟในระหว่างทาง ใครรอดก็โชคดีไป ใครตายก็ถือว่าช่วยไม่ได้

เรื่องราวเล่าตัดสลับกันระหว่างจาคอบช่วงเป็นหนุ่มน้อยวัย 23 กับจาคอบผู้ชราอายุ 90 หรือ 93 แกก็จำไม่ได้แม่นนัก จาคอบวัยชราเล่าเรื่องราวความรักที่เขา (ในวัยหนุ่ม) มีกับหญิงสาวนักแสดง (มาร์ลีน่า) ที่แต่งงานแล้วกับผู้คุมการแสดง (ออกัส --ฐานะเป็นรองก็แต่หัวหน้าคณะฯ) กับความรักที่เขามีให้กับโรซี่ ช้างแสดงที่ได้มาจากการล้มละลายของคณะละครสัตว์อื่น

ในเรื่องเล่าถึงภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำของสหรัฐฯ ในยุคประมาณ 1930 เมื่อคณะละครสัตว์ใดล้มละลาย ก็จะมีคณะอื่นมากว้านซื้อสัตว์แสดงโชว์หรือตัวนักแสดงไปในราคาถูกๆ โรซี่เองก็ติดมาในฐานะช้างโง่ที่สั่งอะไรก็ไม่ยอมทำตาม แต่ลุงอัลซื้อมาเพราะอยากมีหน้ามีตาทัดเทียมคณะฯ ชั้นสูงกว่านั่นเอง

ขอบอกว่าโรซี่ฉลาดมาก ฉลาดจนรู้สึกเหมือนมันเป็นคนยังงั้นเชียว (อ่านเองนะ)

นักเขียนเองก็เขียนนิยายเรื่องนี้แบบค้นคว้าข้อมูลมาใช้ในการเขียน ตาม "ความในใจนักเขียน" ท้ายเล่ม หลายเรื่องก็มาจากเรื่องจริง ตัวหนังสือเองก็มีเชิงอรรถบรรยายถึงสิ่งที่เขาพูดในเรื่องได้อย่างชัดเจน

หนังสือคุณภาพแบบนี้อ่านแล้วไม่เสียดายจริงๆ


+++++++++++++++++
หมายเหตุ :
หนังสือเรื่องนี้ได้กลายเป็นหนังแล้วในชื่อเดียวกัน นำแสดงโดยนักแสดงที่กำลังเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ หลายคน ดังนั้นปกหนังสือเดิมที่เป็นแนววินเทจจึงถูกนำมาหุ้มปกใหม่ด้วยภาพใบปิดของหนังแทน สำหรับฉันน่ะชอบปกแบบเดิมมากกว่า ดีว่าเขาใช้แค่ภาพใบปิดหุ้มปก ก็เลยเอาออกไปได้
สิ่งที่อยากติในหนังสือเล่มนี็ก็คือการพิสูจน์อักษรที่ผิดเยอะ ทั้งตัวสะกดตกหล่น ไม่เคาะวรรคตรงที่ควรเคาะ ที่หนักสุดก็คืออ่านแล้วไม่ได้ใจความ ไม่รู้ว่าจะเขียนถึงอะไรกันแน่ ได้แต่เดาๆ เอา ดีว่าไม่ได้ทำให้เนื้อเรื่องเสียหาย กับเล่มที่ซื้อมาหน้ากระดาษมีรอยขาดตรงส่วนหัวราว 4-5 หน้า T__T
+++++++++++++++++

ความคิดเห็น