Millennium series กับนางเอกไม่สวยพระเอกไม่หล่อ

ช่างเป็นนางเอกที่หน้าตาไม่สวยเอามากๆ เลยในหนังชุด Millennium ของสวีเดน ที่ประกอบด้วยสามภาค ได้แก่ The Girl with the Dragon Tattoo, The Girl who Played with Fire และ The Girl Who Kicked the Hornets' Nest

(ในรูปนี้ยังดูสวยนะ แต่ในหนังแทบไม่มีแบบนี้)

ตัวเอกเรื่องนี้เป็นหญิงสาวต่อต้านสังคม แต่งตัวเหมือนพวกพังค์ ชุดหนัง เจาะจมูก สักตัว แต่งหน้าสีดำเข้มๆ ไว้ผมโมฮอก เป็นแฮกเกอร์มือฉมัง นามว่า ลิซเบธ ซาลันเดอร์

ตลอดทั้งสามภาคฉันพยายามมองหาความสวยงามของสาวคนนี้ ช่างหาได้ยากมากๆ โดยเฉพาะภาคสามที่ใส่ชุดเน้นๆ ร่างกาย ที่ฉันเห็นคือผู้หญิงตัวเตี้ย ล่ำ อกแบนโดยสิ้นเชิง หน้าตาเคียดขึ้ง และไร้ความงาม

เมื่อลองมาค้นหารูปภาพอื่นนอกจากบทบาทในหนัง โดยผู้รับบทลิซเบธนี้คือ Noomi Rapace ฉันก็ได้พบว่า เธอเป็นคนสวยมากๆ เลย






ช่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว!!!

หนังในชุดนี้สร้างจากนวนิยายของ Stieg Larsson ชาวสวีเดน

เนื้อเรื่องของภาคแรก  The Girl with the Dragon Tattoo เป็นเหมือนการปูพื้นเรื่องราวชีวิตของลิซเบธ และความสัมพันธ์ที่เธอมีกับมิเคล บลอมควิซ นักเขียนประจำนิตยสาร Millennium แนวเปิดโปงทุจริต ที่ต้องมาทำงานร่วมกันเพื่อคลี่คลายคดีการหายตัวไปของเด็กสาว 16 ปี ที่หายตัวไปอย่างเป็นปริศนาถึงสี่สิบปี


การคลี่คลายคดีครั้งนั้นได้สร้างมิตรภาพให้เกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสอง และนำมาสู่เรื่องราวของหนัง (หรือหนังสือ) อีกสองภาคต่อมา

ฉันดูหนังภาคแรกหลังจากที่เพิ่งอ่านนวนิยายฉบับแปลไทยจบไปไม่นาน ในความรู้สึกก็คือมันเป็นหนังที่ไม่ค่อยสนุกสักเท่าไร อืดเอื่อย เฉื่อย คงเป็นเพราะรู้บทสรุปในตอนท้ายมาแล้ว (นอกจากนางเอกจะไม่สวยแล้ว พระเอกยังไม่หล่ออีกตะหาก จะอะไรขนาดน้านนน)

แต่ด้วยความที่ซื้อหนังมาแล้วครบทั้งสามภาค ฉันจึงขอพิสูจน์ความสนุกของเรื่องนี้ด้วยอีกสองภาคที่ยังไม่ได้อ่านหนังสือ แล้วฉันก็รู้สึกว่าเป็นหนังที่สนุกใช้ได้เลยล่ะ

ในสองภาคหลังคือ  The Girl who Played with Fire และ The Girl Who Kicked the Hornets' Nest เป็นเรื่องราวที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ตัวลิซเบธ ...ปมปัญหาที่เธอผูกขึ้นในวัยเด็กเมื่อเธอสาดน้ำมันใส่หน้าของชายคนหนึ่งแล้วจุดไฟเผา

การกระทำครั้งนั้นส่งผลให้เธอต้องถูกส่งตัวไปอยู่ในโรงพยาบาลโรคจิตและต้องอยู่ในการปกครองของรัฐอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องปกติของเด็กมีปัญหาคนหนึ่งเท่านั้นเอง

แต่เรื่องราวนั้นกลับลึกยิ่งกว่าและลับในระดับรัฐบาล ในภาคนี้เธอกลับมาเพื่อจัดการเรื่องราวในอดีตที่ยังค้างคา และส่งผลให้หลายคนต้องรับกรรมที่ตนเองก่อขึ้นในที่สุด

บางคนอาจกำลังรอดูหนังเรื่องนี้ในเวอร์ชั่นฮอลีวู๊ด แต่สำหรับฉันคิดว่าเวอร์ชั่นต้นฉบับน่าจะสนุกกว่า อย่างน้อยก็สนุกกับการพยายามเลียนแบบเสียงพูดที่แปลกหูในภาษาสวีเดน ที่พอฟังไปสักพักก็เริ่มจะชินหูไปซะแล้ว

ดูแล้วคุณอาจจะชอบหนังยุโรปไปเลยก็ได้



ความคิดเห็น