วาดภาพ : บทรำพึงจากรถเมล์


เดิน เดิน เดิน เดินร้อนใต้แสงแดดแผดแรง มาจนถึงป้ายรถเมล์
ไร้กิ่งก้านสาขาต้นไม้เป็นร่มบัง
รอ ร้อ รอ รอแทบขาดใจ กว่ารถเมล์จะเยื้องกรายมา
เบียดกันเข้าไป ผลักกันเข้าใน
แล้วฉันก็ยืนหยุดนิ่งบนรถที่หยุด...นิ่ง
เพ่งมองไปนอกหน้าต่าง สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว
ไม่มีรถคันไหนเลื่อนไปข้างหน้า 
จวบจนสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีแดง

แล้วรถก็ขยับ ขยับไปนิดหนึ่ง
เหวี่ยงจนคนเอนไปข้างหลัง
คนขับเหยียบเบรค กระแทกซะเต็มตีน
เหวี่ยงจนคนเอนกระเด็นไปข้างหน้า

คนยืนบนรถเมล์โยกตัวไปด้วยจังหวะเดียวกัน
ตามแต่คนขับจะจับเหวี่ยง เหวี่ยง เหวี่ยง

เจอจังหวะเบี่ยงรถไปเลนขวา
คนบนรถเมล์ก็ขวาตาม
เจอป้ายรถเมล์ กริ่ง กริ๊ง กริ่ง คนจะลงป้าย
พี่ก็ปาดไปทางซ้าย
คนโดยสารก็ซ้ายตาม
เสียงเบรคดังสนั่นปนกันกับเสียงแตรดังจากภายนอก
รวมเข้ากันเป็นจังหวะบนท้องถนน ถนน ถนนยามเช้า
หาว... น่าง่วงนอน

เหลือบมองนาฬิกาบนรถเมล์ เข็มบอกเวลาบ่ายสองสิบชั่วนิรันดร์
โยกย้ายไปตามจังหวะชีวิตบนรถเมล์ทุกเช้าค่ำ
ได้แต่ฝากชีวิตไว้ใต้ตีนพี่คนขับ
หยุดการรับรู้โลกภายนอก 
ไม่เห็นแม้การขุด ขุด เจาะ เจาะ บนท้องถนนกรุงเทพฯ
หาความสุขจากฝันกลางวัน...ส่วนตัว

หากไม่ถูกเหวี่ยงกระเด็นไปกองบนพื้น 
ฝันนั้นก็จะยืดยาวต่อไป.. ต่อไป...
กับชีวิตที่ย้ายโยกไปบนรถเมล์



เขียนขณะที่เสียสติไปแล้วกับรถที่อยากบอกว่า "มันจะติดอะไรกันนักหนาวะเนี่ย" แม้จะได้นั่ง แต่ยังคงจำบรรยากาศเมื่อตอนก่อนที่เคยทำงานในกรุงเทพฯ ที่ต้องเบียดเสียดกันในช่วงเร่งด่วน เดี๋ยวนี้รถติดได้ติดดีตลอดทั้งวันเลย

ความคิดเห็น