เฟรดดี้ ไฮมอร์ หน้าตาคุ้นเอามากๆ แต่ไม่ใช่ในเวอร์ชั่นวัยรุ่นแบบนี้ คิดว่าน่าจะดูหนังเด็กที่หนุ่มคนนี้แสดง เป็นคนที่มีหน้าเหมือนยิ้มตลอดเวลา ไปค้นในเน็ตก็พบว่าเคยดูหนังที่หนุ่มคนนี้แสดง Charlie and the Chocolate Factory, The Golden Compass และ The Spiderwick Chronicles
ที่เลือกดูหนังเรื่องนี้ไม่ใช่เพราะหนุ่มน้อยคนนี้ แต่เป็นเพราะหนังตัวอย่างที่ดูแล้วน่าสนใจ และก็ไม่ผิดหวัง
The Art of Getting By เป็นหนังเกี่ยวกับวัยรุ่นคนหนึ่งที่กำลังอยู่ในช่วงค้นหาตัวตนของตัวเอง เปิดฉากด้วยคำถามที่ "จอร์จ ซินาวอย" ถามตัวเองว่าคนเราจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรในเมื่อวันหนึ่งก็ต้องตาย ทำไมถึงต้องมาตะเกียกตะกายเรียนตรีโกณให้ยุ่งยาก
เขาเลิกทำการบ้าน เลิกทำรายงาน ไม่สนใจจะเรียนให้จบ ได้แต่ใช้ชีวิตวาดรูปไปวันๆ สร้างความกังวลให้กับแม่และครูใหญ่เป็นอย่างมาก จากเนื้อเรื่องเหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่าว่าจอร์จของเราน่าจะเป็นเด็กเรียนและเด็กดีมาตลอด คงจะเพิ่งมาเกิดความกังขาในชีวิตเอาเมื่อไม่นานมานี้ และเริ่มก่อการกบฎขึ้นเล็กๆ ในตัวเอง จนดูเหมือนคนต่อต้านสังคม
จู่ๆ เขาก็ได้พบกับเพื่อนสาวร่วมชั้นเรียน "แซลลี่" ที่พาเขาเข้าไปรู้จักโลกอีกด้านหนึ่ง และรู้จักกับความรัก
ในท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจมีชีวิตอยู่ตามกระแสสังคมต่อไปเพื่อคนที่เขารัก ทั้งแม่และสาวแซลลี่
การตั้งคำถามถึงเป้าหมายชีวิตอาจไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับเด็กวัยรุ่นเท่านั้น เพียงแต่ในวัยนั้นความรับผิดชอบต่อชีวิตและคนรอบข้างอาจยังไม่มากมาย ทั้งปัญหาชีวิตก็ยังไม่สุมทับมามากเท่ากับผู้ใหญ่ ที่มีภาระหน้าที่หลายอย่างจนต้องปล่อยวางคำถามนั้นไว้หรือแกล้งทำเป็นลืมเลือนไป จนกว่าเขาจะเริ่มหันกลับมามองชีวิตอีกครั้งอย่างใคร่ครวญ
ดังนั้นปัญหาว่า "เรามีชีวิตไปเพื่ออะไร" จึงไม่ใช่เรื่องเด็กๆ ที่ไร้สาระเลย
ที่เลือกดูหนังเรื่องนี้ไม่ใช่เพราะหนุ่มน้อยคนนี้ แต่เป็นเพราะหนังตัวอย่างที่ดูแล้วน่าสนใจ และก็ไม่ผิดหวัง
The Art of Getting By เป็นหนังเกี่ยวกับวัยรุ่นคนหนึ่งที่กำลังอยู่ในช่วงค้นหาตัวตนของตัวเอง เปิดฉากด้วยคำถามที่ "จอร์จ ซินาวอย" ถามตัวเองว่าคนเราจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรในเมื่อวันหนึ่งก็ต้องตาย ทำไมถึงต้องมาตะเกียกตะกายเรียนตรีโกณให้ยุ่งยาก
เขาเลิกทำการบ้าน เลิกทำรายงาน ไม่สนใจจะเรียนให้จบ ได้แต่ใช้ชีวิตวาดรูปไปวันๆ สร้างความกังวลให้กับแม่และครูใหญ่เป็นอย่างมาก จากเนื้อเรื่องเหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่าว่าจอร์จของเราน่าจะเป็นเด็กเรียนและเด็กดีมาตลอด คงจะเพิ่งมาเกิดความกังขาในชีวิตเอาเมื่อไม่นานมานี้ และเริ่มก่อการกบฎขึ้นเล็กๆ ในตัวเอง จนดูเหมือนคนต่อต้านสังคม
จู่ๆ เขาก็ได้พบกับเพื่อนสาวร่วมชั้นเรียน "แซลลี่" ที่พาเขาเข้าไปรู้จักโลกอีกด้านหนึ่ง และรู้จักกับความรัก
ในท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจมีชีวิตอยู่ตามกระแสสังคมต่อไปเพื่อคนที่เขารัก ทั้งแม่และสาวแซลลี่
การตั้งคำถามถึงเป้าหมายชีวิตอาจไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับเด็กวัยรุ่นเท่านั้น เพียงแต่ในวัยนั้นความรับผิดชอบต่อชีวิตและคนรอบข้างอาจยังไม่มากมาย ทั้งปัญหาชีวิตก็ยังไม่สุมทับมามากเท่ากับผู้ใหญ่ ที่มีภาระหน้าที่หลายอย่างจนต้องปล่อยวางคำถามนั้นไว้หรือแกล้งทำเป็นลืมเลือนไป จนกว่าเขาจะเริ่มหันกลับมามองชีวิตอีกครั้งอย่างใคร่ครวญ
ดังนั้นปัญหาว่า "เรามีชีวิตไปเพื่ออะไร" จึงไม่ใช่เรื่องเด็กๆ ที่ไร้สาระเลย