ครั้งก่อนพูดถึงการเรียนครั้งแรก แล้วก็ไม่ได้เขียนยาวมาจนถึงวันนี้ เรื่องก็มีอยู่ว่า อาจารย์คนแรกเป็นหนุ่มชาวแคนาดา สอนฉันไปได้ 2 วัน ก็ลาออกเพื่อไปทำงานอื่น
ก่อนเรียนวันที่ 3 ทางโรงเรียนก็โทรมาคุยเพื่อเลื่อนเวลาเรียน จากช่วงเช้าไปช่วงบ่าย พอเข้าไปโรงเรียนก็ได้เจอกับอาจารย์คนใหม่ เป็นหญิงชาวอัฟริกาใต้ ผิวดำ สำเนียงช่างแตกต่างจากภาษาอังกฤษใดๆ ที่ฉันเคยได้ยินมา บางครั้งคำง่ายๆ ฉันก็ฟังไม่ออกซะงั้น อย่าง "ค้าท" นั่นหรือคือ cat ก็คิดนะว่าถ้าคนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษแล้วเขามาเริ่มต้นเรียนรู้ภาษาแบบนี้ เขาจะติดสำเนียงนั้นไปตั้งแต่ต้น เกิดเป็นปัญหาหรือเปล่า อย่างฉันไม่ค่อยเท่าไร เพราะพื้นก็มีอยู่ แค่ปรับ "ฟัง" นิดหน่อยเท่านั้น
แม้จะติดเรื่องสำเนียง แต่วันแรกๆ ก็ดูจะคุยสนุกดีนะ เรื่องเริ่มจะไม่ค่อยเข้าท่าก็ตรงที่มีอยู่วันหนึ่งสอนๆ อยู่พี่แกก็เอ่ยปากว่ามีปัญหาเรื่องเงินแล้วจะขอยืมเงินฉัน ฉันก็อึ้งล่ะสิ ใช้วิธีโยนกลองให้สามี บอกว่าต้องขอสามีก่อน แกก็เลยถอยทัพ และย้ำว่าอย่าไปบอกเจ้าของโรงเรียนล่ะ หลังจากวันนั้นพี่แกก็เริ่มมีท่าทีไม่ค่อยอยากสอนเราสักเท่าไร ความกระตือรือล้นหาย สอนแบบน่าเบื่อๆ แถมยังมีกดดูโทรศัพท์ตลอดเวลา
พอผ่านไปสักพักฉันเริ่มอยากจะถอยซะเอง แต่ที่ยังฮึดอยู่ก็เพราะว่าเสียดายตังค์น่ะนะ
มีวันหนึ่งโชคดีเจอเจ้าของโรงเรียน เขาก็ถามว่ามีปัญหาอะไรมั้ย ฉันก็บอกไปว่า ฉันฟังสำเนียงของครูไม่ออก เพราะไม่คุ้นเคย นอกนั้นก็ดี ไม่มีปัญหา เขาเลยบอกว่าขออีกสักระยะจะเปลี่ยนอาจารย์ให้ แล้วจากนั้น...
ฉันก็ได้รับโทรศัพท์เลื่อนการเรียนครั้งถัดมา โดยไม่บอกเหตุผล ฉันเองก็กำลังติดงาน ก็เลยถือเป็นโอกาสอันดี และมีเหตุให้เลื่อนไปอีก 2 ครั้งถัดมา จนวันนี้ก็ได้ไปเรียนในที่สุด และได้รู้ว่าครูสาวผิวดำของฉันไม่ใช่ลาออก แต่หายไปเฉยๆ ซะงั้น ท่าทางเจ้าหน้าที่โรงเรียนก็เซ็งๆ อยู่
การเปลี่ยนแปลงรอบนี้ไม่เพียงอาจารย์คนใหม่ (คนที่สาม) แต่ยังเป็นสภาพแวดล้อมในการเรียนอีกด้วย
ครั้งนี้จากคอร์สส่วนตัวฉันก็ได้เพื่อนเรียน เป็นผู้หญิงวัยน่าจะราวยี่สิบต้นๆ สองคนกับเด็กม 5 หนึ่งคน ได้เรียนกับอาจารย์ชายซึ่งน่าจะมาจากอังกฤษ เพราะเขาสอนสำเนียงอังกฤษ ที่ตัวสะกด th ให้ออกเสียง f ง่ะ เซ็งอีกแว้วกรู
เพื่อนเรียนก็น่ารักดี บางเรื่องก็ตลกดี อย่างคำว่า collage น้องเขาอ่านไม่ออก พยายามออกเสียงไปมาจนกลายเป็น "คลอเร็ต" แทบหลุดหัวเราะออกมาเลย ฉันเลยต้องช่วยเป็นล่ามจำเป็นให้ ส่วนน้องม 5 ก็จะเรียกฉันพี่ก็ไม่กล้า จะเรียกน้าก็ไม่แน่ใจ กล้าๆ กลัวๆ เรียกแทนตัวฉันว่า "น้า" แผ่วๆ ฉันเองก็ไม่รู้จะให้น้องเขาเรียกฉันยังไงไม่รู้เหมือนกัน ขอคิดสักหลายคืนละกัน
พื้นฐานด้านภาษาของฉันกับเด็กอีก 3 คนต่างกันลิบเลย ก็แหงน้อ ฉันเรียนจบมหาลัยมาด้วยเอกภาษาอังกฤษ ซึ่งถ้าไปเทียบกับเพื่อนเก่า ภาษาของฉันห่วยที่สุด (เพราะเพื่อนๆ มันได้ทำงานกับบริษัทฝรั่งทั้งนั้น บางคนก็ได้ไปเรียนต่างประเทศ) แต่เมื่อเทียบกับน้องๆ กลุ่มนี้ ฉันก็ถือว่ามีพื้นด้านภาษาดีกว่า
ได้แต่หวังว่าจะฝึกพูดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพูดได้เขียนออก (เฮ้ย ...) ที่แน่ๆ คือวันเรียนของฉันไม่ตรงกับอีก 3 คน น้องๆ เขาเรียนกันอังคารถึงศุกร์ สี่วันรวด ส่วนฉันเรียนพุธกับศุกร์ แต่ก็คงต่อกันติดแหละ อ่ะนะ
จะได้เปลี่ยนอาจารย์คนที่ 4 หรือเปล่านะเนี่ย สงสัยจัง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น