น้ำท่วม ตอน 2 น้ำเริ่มบุกประชิด





จนถึงวันที่น้ำเข้ามาประชิดปากทางเข้าหมู่บ้าน มีการพยายามทำคันกั้นน้ำหน้าหมู่บ้าน พร้อมรับบริจาคเงินเพื่อซื้อเครื่องสูบน้ำออกจากหมู่บ้าน ฉันขี่จักรยานไปสำรวจดูใกล้ๆ บ้าน พบว่าน้ำเริ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน หลายหมู่บ้านพยายามรักษาพื้นที่ด้วยวิธีเหมือนๆ กัน แฟนเอารถมอร์ไซค์ไปฝากจอดไว้ที่อาคารสโมสรของหมู่บ้านที่มีพื้นที่สูง
เราเริ่มปิดไม้เชอร์ร่ากับวงกบประตูหน้า-หลัง โดยต้องถอดประตูไม้ด้านนอกออกก่อนแล้วจึงปิดไม้ แล้วฉีดซิลิโคนไปตามรอยต่อเพื่อผนึกไม่ให้น้ำเข้า ประตูหลังบ้านถือว่าหนักหนาสาหัสที่สุดเพราะหัวน๊อตไขออกไม่ได้ จนต้องใช้วิธีงัดออกจากวงกบอย่างสาหัสมาก เราใช้ชีวิตโดยการเดินเข้าออกบ้านข้ามไม้เชอร์ร่าที่สูงถึงต้นขาอยู่ประมาณ 2-3 วัน จากนั้นแฟนก็ทำขาตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ให้สูงเหนือพื้นดินราว 1 เมตร เพื่อว่าเมื่อน้ำท่วมเราจะยังมีน้ำไว้ใช้ได้ และหนุนตู้หลังบ้านเพิ่มขึ้นอีกให้สูงเท่ากับอิฐบล็อก 3 ก้อน


และแล้วน้ำก็ทะลักเข้าท่วมในหมู่บ้านตอนกลางคืน



เช้าวันอังคารที่ 25 ตุลาคม เราตื่นขึ้นมาพร้อมจับตาดูน้ำที่ค่อยๆ คืบเข้ามาในรั้วบ้าน ทั้งจากหน้าบ้านที่น้ำคืบมาจากด้านท้ายหมู่บ้าน และหลังบ้านที่น้ำผุดขึ้นมาจากพื้นดิน วันนี้แฟนไม่ได้ไปทำงานแล้ว แม้จะมีไม้เชอร์ร่าปิดแต่เราก็ยังไม่ไว้ใจมันสักเท่าไรนัก เราจึงยกลตู้เย็นขึ้นไว้บนชานพักบันไดอย่างทุลักทุเล แฟนแบกด้านหน้าและคอยผลักจากด้านล่าง ฉันยกขึ้นบันไดทีละขั้นๆ เพราะหากน้ำเข้ามาจริงๆ การยกจะลำบากกว่านี้


ฉันติดรถของกทม.ที่เข้ามาทำธุระในหมู่บ้านออกไปข้างนอกเพื่อกดเงินสดมาเก็บไว้ รถคันนี้เป็นรถใหญ่ น่าจะเป็น 6 ล้อ และสูงมากๆ กว่าจะปีนขึ้นไปได้ทุลักทุเลพอสมควร ถ้าเด็กกว่านี้สักหลายปีคงสนุกและปีนง่ายกว่า รถคันนี้มีผู้ร่วมชะตากรรมเป็นหญิงอีก 3 และชาย 3 เมื่อดูบ้านหลายหลังเห็นว่าไม่มีคนอยู่แล้ว


ระหว่างทางก็เห็นหลายคนพยายามป้องกันน้ำหรืออพยพ ส่วนเด็กๆ เล่นน้ำกันสนุก เมื่อออกถึงถนนใหญ่ก็พบว่ามีรถจอดริมถนนกันมากมาย คนเดินลุยน้ำกันจำนวนมาก ฉันเองพอได้เงินแล้วก็เดินกลับบ้านเป็นระยะทางราว 1 กิโลเมตร ทะลุหมู่บ้านริมถนนที่เขาใจดีเปิดให้เป็นทางผ่านชั่วคราวไปด้านหลัง
ในหมู่บ้านนี้หลายบริเวณยังแห้งอยู่ เดินค่อนข้างสบาย มาเจอน้ำลึกก็ตรงออกจากหลังหมู่บ้านของเขา จนกางเกงขาสั้นเปียกจนได้ เข้าบ้านแล้วรีบอาบน้ำทันที
เข้าวันที่ 2 ของน้ำท่วม (วันพุธที่ 26 ตุลา) น้ำก็ยังคงสูงขึ้นทีละนิด และช้าลงในตอนบ่ายๆ และยังคงไม่เข้าบ้าน เราเริ่มสูบลมเข้าเรือยาง เกิดปัญหาว่าหัวปั้มลมจักรยานไม่มีที่สูบสำหรับเรือยาง เราเลยต้องใช้วิธีประยุกต์ใช้ก้านลูกโป่งมัดด้วยหนังยางหัวท้าย แล้วยัดปลายเข้ากับจุกเรือยางกับจุกที่สูบลม และใช้ได้ดี กระนั้นการสูบลมเข้าเรือก็ยังสาหัส ต้องผลัดกันสูบลม
บ่ายๆ ลองไปพายเรือเล่น มันหมุนติ้วไปมา ลอยไปชนรั้วทางซ้ายสลับกับทางขวาของถนนหน้าบ้าน สงสัยว่าเดินเอาจะง่ายกว่าใช้เรือ คิดว่ายังมีเวลาฝึกอีกหลายวัน แฟนพยายามกอบกู้ต้นไม้ขึ้นที่สูงซึ่งก็คือบนรั้วบ้าน หลายต้นต้องปล่อยให้จมน้ำ


ตกเย็นเราออกไปเดินเล่น เพราะไม่รู้จะทำอะไร เดินไปเรื่อยๆ จนถึงถนนใหญ่ ถ่ายภาพเสร็จก็กลับ กว่าจะถึงบ้านก็ฟ้ามืด เหมือนหมู่บ้านร้าง เงียบกริบ

กลับมาถึงก็ต้องมายกตู้หลังบ้านหนีน้ำอีกรอบ พร้อมลุ้นปราการกั้นน้ำในบ้าน หลังบ้านที่ห่วงที่สุดกลับรอดที่กระดานแผ่นแรก หน้าบ้านเริ่มมีน้ำซึมเข้า แฟนเครียดเลย ต้องหาดินเหนียวมาอุดไว้ ในห้องน้ำแฟนใช้ท่อพีวีซีมาครอบท่อแล้วเอาดินเหนียวอุด แต่เผอิญไปขยับ น้ำเลยเข้า พยายามอุดกันเครียดอีกรอบ ดูท่าจะไม่ไหวจนต้องเอาไม้เชอร่าอีกแผ่นมาปิดและยาซิลิโคนตรงประตูห้องน้ำ
เราจึงยกของบางอย่างขึ้นชั้น 2 ทั้งโทรทัศน์ เครื่องรับดาวเทียม เครื่องเล่นดีวีดี ยกโซฟาและตู้หนังสือขึ้นโต๊ะ เหลือชั้นหนังสือ (อีกตู้) ตู้วางทีวี และเครื่องซักผ้าที่ห่อพลาสติกวางไว้กับพื้น แล้วรอลุ้นน้ำเข้าพรุ่งนี้

SomewhereOnEarth

เป็นคนชอบหลายอย่าง ทั้งแมว หนังสือ หนัง ซีรี่ส์ เกม ต้นไม้ ถ่ายภาพ วาดรูป ฯลฯ เลยเริ่มต้นทำบล็อกเพื่อเล่าเรื่อง ส่วนหนึ่งเพื่อตัวเอง เพราะเป็นคนขี้ลืม บางเรื่องย้อนกลับมาอ่านยังเหมือนอ่านเรื่องของคนอื่นยังไงยังงั้น อีกส่วนเพื่อแบ่งปันเรื่องราวกับผู้อื่น นอกจากนี้ยังติดตามเราได้ที่ https://www.youtube.com/taotuatoe

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า