127 Hours สมมติว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ล่ะก็...


ถ้าฉันต้องตัดมือตัวเองออกเองสดๆ เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ ฉันจะทำหรือเปล่าน้อ

ตอบได้ทันทีเลยว่า "ไม่" อย่างหนักแน่น ฉันเป็นคนประเภทยอมตายแต่ไม่กล้าสร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกายถึงขนาดนั้น

เมื่อปีก่อน ได้ดูหนังตัวอย่างเรื่อง 127 Hours จาก youtube.com รู้สึกว่าน่าสนุก พระเอกไปเที่ยวแล้วมือติดอยู่กับก้อนหิน ถ้าออกเป็นดีวีดีต้องดูให้ได้ แล้วก็ลืมไปจนได้มาอ่านรีวิวหนังเรื่องนี้จากในเว็บ จึงรู้ว่าเป็นหนังที่สร้างจากชีวิตจริง และในเรื่องมีฉากที่เขาตัดแขนตัวเองออกเพื่อพาตัวเองออกมาจากช่องผาแห่งนั้น

กรี๊ดดด... ยิ่งได้อ่านบางคนให้ความเห็นว่า ตอนไปดูในโรงหนัง มีผูหญิงคนหนึ่งถึงกับเป็นลมในโรงหนังในฉากตัดแขน!!!!

เท่านั้นฉันก็เปลี่ยนใจ ไม่ดูล่ะเรื่องนี้ ไม่อยากทรมานประสาทตัวเอง เพราะฉันเป็นพวกเห็นคนตายไม่ว่า แต่อย่าเห็นคนขาขาดแขนขาด รับไม่ได้กับสภาพความเจ็บปวด ยิ่งถ้าเป็นตัดแขนตัวเองยิ่งแล้วใหญ่

แล้วฉันก็ปล่อยหนังเรื่องนี้ไป จนมีคนให้ดีวีดีหนังเรื่องนี้มา ฉันก็เก็บไว้ เก็บไว้ และเก็บไว้ จนวันหนึ่งที่ฉันหมดเรื่องที่จะดู และเกิดอาการลงแดงอยากดูหนังเอามากๆ ฉันก็เปิดดู

ดูไปได้แค่ 20 กว่านาที เห็นแอรอน (ตัวเอกในเรื่อง) เอามีดจิ้มแขนตัวเองเพื่อทดสอบ ฉันก็เลิก ปิด เก็บ ปล่อยให้มันค้างเติ่งอยู่ในเมมโมรีที่ลบไม่ออก

จนวันนี้ ในวันที่เบื่อถึงขีดสุด ฉันก็ไปหยิบเอา 127 Hours มาใหม่อีกรอบให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราวกันไป แล้วเปิดดูจนจบ

เรื่องราวของแอรอน ราลสตัน ผู้มีสภาพเหมือนคนพลังงานเกิน 150% เขาพาตัวเองออกไปท่องเที่ยวในหุบเขาโดดเดี่ยวตามลำพังโดยไม่บอกใคร ที่บลูจอห์นแคนยอนนี้เป็นสถานที่ค่อนข้างตัดขาดจากโลกภายนอก แทบจะไม่ค่อยมีคนมาท่องเที่ยวนัก

แอรอนเกิดอุบัติเหตุหล่นจากร่องผาพร้อมก้อนหิน และมือของเขาไปติดอยู่กับก้อนหินนั้น

ตลอดเวลาที่เหลือ คุณจะเห็นภาพการพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดของแอรอนตัดสลับกับภาพในอดีตและภาพหลอนที่เขามองเห็น ช่วงนี้หนังค่อนข้างน่าง่วงอยู่บ้าง จนแทบจะเลิกดูอีกรอบแล้วไปหลับ

จนเมื่อถึงวันสุดท้ายที่เขาเองก็เกือบจะหมดพลังกาย เขาก็ดิ้นรนเฮือกสุดท้ายเพื่อให้มีชีวิตอยู่ ด้วยการตัดแขนตัวเอง

ฉันผ่านฉากนี้มาได้อย่างตื่นเต้นนิดหน่อย แต่ฉากที่รับไม่ได้ก็คือฉากที่เขากินฉี่ตัวเอง ความรู้สึกส่วนตัว ฉากนี้ดูยากกว่าฉากตัดแขนอีก แทบขย้อนออกมาแน่ะ

ฉันขอยกย่องแอรอน ราลสตันไว้ ณ ที่นี้ กับความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวที่จะมีชีวิตอยู่

ปัจจุบันแอรอนยังคงเป็นนักผจญภัยอยู่เช่นเดิม

แถมท้าย :

ปัจจุบัน (2011) แอรอนอายุ 36 ปี (เกิดปี 1975) เขาได้เขียนหนังสือชื่อ Between a Rock and a Hard Place ที่เล่าประสบการณ์ชีวิตช่วงนั้นไว้จนเป็นที่มาของหนัง 127 Hours เรื่องนี้ และนี่คือภาพตัวจริงของเขา





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Lost บทสรุปและ..สปอยล์...เขียนไว้เตือนความจำตัวเอง

Travelers อนาคตยังไม่ถูกกำหนด

You Should Have Left (2020) : บ้านคือภาพสะท้อนของหัวใจ