Water for Elephant ช้างเป็นตัวเอก เอ๊ะ

แรกเริ่มตั้งใจจะไม่ดูหนังเรื่องนี้ หลังจากอ่านหนังสือแล้วชอบเรื่องราวในหน้ากระดาษมากทีเดียว โดยเฉพาะการนำเอาตอนจบมาเขียนเปิดเรื่อง แล้วไปเฉลยปมที่ซ่อนไว้ได้อย่างแนบเนียนจนคิดไม่ถึง

การนำเอาบทประพันธ์มาสร้างเป็นหนัง มีน้อยรายที่ทำได้แบบดีเทียบเท่ากับหนังสือ เนื่องจากข้อจำกัดของกลวิธีการเล่าเรื่อง สำหรับเรื่องที่ทำได้ดีกว่าหนังสือ (เท่าที่เคยดู) น่าจะเป็นเรื่อง Dexter ที่พอเป็นซีรีย์แล้วรู้สึกว่าสนุกมากจนต้องติดตามเข้ามาถึง Season 5 เข้าไปแล้ว ในขณะที่หนังสือนี่ไม่สนุกเอาซะเลย

เรื่อง Water for Elephant ได้มีการตัดและดัดแปลงเรื่องราวหลายอย่างที่แตกต่างออกไปจากหนังสือ ทั้งที่ไม่เป็นไรและทำให้ผิดหวัง

เรื่องราวของเจค็อบ ชายหนุ่มที่เรียนเกือบจะจบสัตวแพทย์จากฮาร์วาร์ด แต่พ่อแม่เกิดมาเสียชีวิตกะทันหัน ทิ้งให้เขาอยู่กับความล้มละลายของครอบครัว กลายเป็นคนไร้บ้านในพริบตา

เขาแอบขึ้นรถไฟของคณะละครสัตว์และกลายมาเป็นสัตวแพทย์ประจำคณะฯ ไปอย่างเฉียดฉิว เขาเริ่มรักกับมาเลน่า ภรรยาของออกัส เจ้าของคณะฯ และได้เป็นผู้ดูแลช้างชื่อโรซี่ซึ่งเพิ่งถูกซื้อมาเข้าคณะหลังเขาไม่นาน

ออกัสเป็นคนอารมณ์ร้อนที่มักลงไม้ลงมือกับสัตว์ในคณะฯ หรือไม่ก็กับมาเลน่าอยู่เสมอ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากว่าเขารู้ว่าเจค็อบกับมาเลน่ารักกัน

หนังเน้นที่เรื่องของสัมพันธ์รัก 3 เส้า แต่ในหนังสือจะให้ความสำคัญกับเรื่องราวของคณะละครสัตว์ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำของสหรัฐฯ ผ่านเรื่องราวความรักของ 3 ชีวิต


ต่อไปนี้จะเป็นการพูดถึงหนังและหนังสือ ถ้ายังไม่ได้ดูอย่าอ่านเชียวล่ะ Spoiled !!!!!!!!!







เตือนแล้วนะ!!!!!










ในการดัดแปลงเพื่อสร้างเป็นหนัง ได้มีการตัดตัวละครสำคัญออกไปหนึ่งตัวคือลุงอัลที่เป็นเจ้าของคณะละครสัตว์ แล้วปรับให้ออกัสมาเป็นเจ้าของคณะแทน ก็ถือว่ารับได้ หากตัวละครเยอะเกินก็อาจจะแบ่งบทให้ได้ไม่ทั่วถึง ทั้งที่จริงๆ แล้วลุงอัลถือว่าเป็นตัวถ่วงความอารมณ์ร้ายของออกัสที่สำคัญเชียวล่ะ

สำหรับเรื่องราวเบื้องหลังของมาเลน่า นักแสดงนำของคณะฯ จากที่ถูกพ่อแม่ตัดออกจากครอบครัวโทษฐานที่มาแต่งงานกับนักแสดงของคณะละครสัตว์ ก็กลับกลายเป็นเด็กกำพร้าไร้บ้าน ...เอ่อ... ถ้าไม่คิดอะไรมากก็คงรับได้อ่ะนะ เพราะการที่เปลี่ยนจากเด็กสาวที่มีครอบครัวมาเป็นเด็กไร้บ้าน กลับทำให้เหตุผลเบื้องหลังการแต่งงานกับออกัสดูจะเปลี่ยนไป จากที่หลงรักออกัสจริงๆ (ในตอนแรกพบ) กลับกลายเป็นน่าสงสัยว่าเธอต้องการเลื่อนฐานะ ยิ่งถ้าดูจากปัจจุบันที่เธอไม่ได้รักออกัสอีกต่อไปแล้ว

และที่รับไม่ได้สุดๆ ก็คงจะเป็นตอนจบ

ตอนจบของหนังเรื่องนี้ถือเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันดูหนังเรื่องนี้มาได้ตลอดทั้งเรื่อง ถือเป็นตอนที่คาดหวังมากที่สุด แม้จะไม่ได้คาดหวังถึงขนาดที่เจอในหนังสือ แต่ก็นะ...สักนิดหนึ่งก็ยังดี อย่างน้อยก็ขอให้มีฉากสัตว์หลุดจากกรงแบบอลังการงานสร้าง

ที่บอกไว้ว่าหนังสือเปิดตัวด้วยตอนใกล้จบของเรื่อง ถือเป็นช่วงที่ไคลแมกซ์ที่สุด ตอนที่เหล่าสัตว์ร้ายในคณะละครสัตว์หลุดออกจากกรงในขณะที่คนจำนวนมากกำลังดูการแสดงอยู่ในเต้นท์ใหญ่ สร้างความโกลาหลวุ่นวายไปทั่ว

ในช่วงนี้เอง "เธอ" ก็ได้ใช้ท่อนเหล็กตีหัวของไอ้ชั่วสักคนจนล้มลง โดยที่เจค็อบเห็นเหตุฆาตกรรมนี้อยู่ตลอด

ก่อนจะอ่านถึงช่วงนี้ที่ท้ายเล่ม ก็เดากันไปว่าน่าจะเป็นมาเลน่าลงมือฆ่าออกัสเนื่องจากทนความโหดร้ายของเขาไม่ได้

แต่...ตัวการจริงๆ ที่สังหารออกัสกลับเป็นโรซี่ ช้างแสนรู้ที่รู้จักแต่ภาษาโปแลนด์




ตามหนังสือนั้น ตั้งแต่โรซี่ได้มาอยู่ในคณะละครสัตว์ ก็ถูกออกัสทารุณมาโดยตลอด และเมื่อวันแห่งความโกลาหลเกิดขึ้น เธอจึง "จงใจ" ที่จะใช้งวงคว้าท่อนเหล็กที่เสียบไว้กับพื้นขึ้นมาทุบหัวออกัสตายคาที่ (ขอเน้นว่าอย่างใจเย็นอีกตะหาก)  แล้วเสียบเหล็กกลับเข้าที่เพื่อซ่อนอาวุธอย่างแนบเนียน โดยที่มาเลน่าไม่เคยรับรู้เรื่องนี้เลย

แต่ในหนัง (คาดว่าเพื่อสร้างบรรยากาศตื่นเต้น) ได้สร้างช่วงนี้ให้เป็นฉากบู๊ระหว่างพระเอกกับผู้ร้าย และจากนั้นผู้ร้ายคือออกัสอาศัยความได้เปรียบจากการมีผู้ช่วย ก็หันไปพยายามจะฆ่ามาเลน่า โดยไปชุลมุนกันอยู่ข้างๆ ตัวโรซี่ แล้วจู่ๆ โรซี่ก็เข้าช่วยโดยเอาท่อนเหล็กตีหัวออกัสจนตาย

เรื่องนี้สร้างความต่างในด้านอารมณ์อย่างมาก จากช้างที่ฆ่าเพื่อ "แก้แค้น" เป็นการส่วนตัว กับเพื่อ "ช่วยเหลือ" คนที่เธอรัก

ถ้าถามฉันชอบแบบในหนังสือมากกว่า มันทำให้โรซี่ดูลึกลับ เจ้าเล่ห์ และฉลาดเกินกว่าจะคาดเดา แทนที่จะเป็นแค่ช้างซื่อๆ ตัวหนึ่ง

ดังนั้นฉันจึงผิดหวังทั้งจากฉากสัตว์ดุร้ายหลุดจากกรงที่ดูไม่ค่อยอลังการนักและผิดหวังจากบทสรุปตอนจบ

แต่ก็นะ... ตอนจบของหนังช่างสมเป็น "ฮอลลีวู๊ด" จริงๆ




ความคิดเห็น