รับแมวใหม่เข้าบ้าน จนทำให้แมวเก่าเครียดกันถ้วนหน้า รวมถึงตัวบงการ 2 คนก็เครียดไม่น้อยกว่ากัน เมื่อราวเดือนก่อนมีแมวจรมาอาศัยพักพิงบนหลังคาบ้านของบ้านที่หลังชนกัน ป๋าเลยให้ข้าวให้น้ำจนกระทั่งมันยอมให้จับ ไม่นานนักก็เริ่มออกอาการติดสัด เราจึงลักพาตัวมันไปทำหมัน
หมอบอกว่ามันอายุได้ 2 ปีแล้ว น่าจะเคยมีลูกมาก่อน กะไว้ว่าทำหมันเสร็จจะพากลับไปหย่อนไว้ที่เดิม เป็นแมวจรเหมือนเดิม ปรากฏว่าป๋าเปลี่ยนใจ รับมันมาเลี้ยง ซื้อกรงมาใส่มันเพื่อให้มันทำความคุ้นเคยกับแมวเก่า 4 ตัวก่อน
วันนี้เจ้ามิ้ว แมวตัวใหม่ก็เข้าบ้าน มันร้องมิ้วๆ อยู่ในกรง (ที่มาของชื่อมิ้วนั่นเอง) หาทางจะออก ร้องสลับนอน ร้องสลับกิน ร้องสลับเลียเนื้อตัว ทำตัวตามสบายมากกับบ้านคนอื่น กลายเป็นว่าที่เครียดคือเรากับป๋า และเหล่าแมวทั้ง 4
โดยเฉพาะเจ้าแต่ง งอนเป็นพิเศษ ไม่ยอมให้เราจับตัวเลย เง้อ....
ก็นับแต่เรารับแมว 3 ตัวมาเป็นน้องเจ้าบุญแต่ง เมื่อราว 8-9 ปีก่อน เราก็ไม่คิดจะพาแมวตัวไหนเข้าบ้านอีกเลย เพราะเจ้าแต่งเอาแต่ไล่ตบน้องจนกระทั่งบัดนี้ ปวดโหลกมากๆ ค่า
มาเข้าเรื่องหนังสือ ก็เกี่ยวกับแมว เป็นแมวชื่อออสการ์ที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสเตียร์เฮาส์รับเลี้ยงไว้ มันพิเศษตรงที่มันมีสัมผัสพิเศษที่รู้ก่อนใครว่าผู้ป่วยคนไหนที่กำลังจะเสียชีวิต มันจะไปนอนเฝ้าจนกระทั่งเขาตายจากไป
เรื่องราวของแมวตัวนี้ได้รับการถ่ายทอดโดยหมอโดสะที่ประจำอยู่ที่นั่น จริงๆ เรื่องราวของออสการ์ไม่ค่อยเยอะเท่าไร ส่วนใหญ่หมอจะเน้นไปที่การเล่าเรื่องของผู้สูงอายุที่แทบทุกคนเป็นโรคสมองเสื่อม
สมองเสื่อม
รู้สึกช่วงนี้ฉันจะพบกับหนังหรือหนังสือเรื่องพวกนี้บ่อยจัง เหมือนมีอะไรสักอย่างเตรียมตัวฉันให้พร้อมสำหรับโรคนี้มั้ง (ฮา)
ในหนังสือ พยาบาลแมรี่เป็นคนบอกหมอเรื่องนี้ แต่หมอดูจะยังไม่ค่อยเชื่อนัก เขาเลยออกไปสัมภาษณ์ญาติของผู้เสียชีวิต และพบว่าออสการ์ทำแบบนั้นได้จริง ที่สำคัญคือทุกคนบอกว่าทั้งผู้ป่วยและญาติรู้สึกสบายใจเมื่อมีออสการ์มาอยู่ด้วย
การมีแมวอยู่ที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุทำให้สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนบ้านที่น่าอยู่มากขึ้น จริงๆ หลังอ่านเรื่องนี้จบก็มีอะไรหลายอย่างอยากเขียนถึง แต่ตอนนี้นึกอะไรไม่ออกเลยในภาวะที่แมวเก่าเครียดกันขนาดนี้
จบละกัน Y___Y
หมอบอกว่ามันอายุได้ 2 ปีแล้ว น่าจะเคยมีลูกมาก่อน กะไว้ว่าทำหมันเสร็จจะพากลับไปหย่อนไว้ที่เดิม เป็นแมวจรเหมือนเดิม ปรากฏว่าป๋าเปลี่ยนใจ รับมันมาเลี้ยง ซื้อกรงมาใส่มันเพื่อให้มันทำความคุ้นเคยกับแมวเก่า 4 ตัวก่อน
วันนี้เจ้ามิ้ว แมวตัวใหม่ก็เข้าบ้าน มันร้องมิ้วๆ อยู่ในกรง (ที่มาของชื่อมิ้วนั่นเอง) หาทางจะออก ร้องสลับนอน ร้องสลับกิน ร้องสลับเลียเนื้อตัว ทำตัวตามสบายมากกับบ้านคนอื่น กลายเป็นว่าที่เครียดคือเรากับป๋า และเหล่าแมวทั้ง 4
โดยเฉพาะเจ้าแต่ง งอนเป็นพิเศษ ไม่ยอมให้เราจับตัวเลย เง้อ....
ก็นับแต่เรารับแมว 3 ตัวมาเป็นน้องเจ้าบุญแต่ง เมื่อราว 8-9 ปีก่อน เราก็ไม่คิดจะพาแมวตัวไหนเข้าบ้านอีกเลย เพราะเจ้าแต่งเอาแต่ไล่ตบน้องจนกระทั่งบัดนี้ ปวดโหลกมากๆ ค่า
มาเข้าเรื่องหนังสือ ก็เกี่ยวกับแมว เป็นแมวชื่อออสการ์ที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสเตียร์เฮาส์รับเลี้ยงไว้ มันพิเศษตรงที่มันมีสัมผัสพิเศษที่รู้ก่อนใครว่าผู้ป่วยคนไหนที่กำลังจะเสียชีวิต มันจะไปนอนเฝ้าจนกระทั่งเขาตายจากไป
เรื่องราวของแมวตัวนี้ได้รับการถ่ายทอดโดยหมอโดสะที่ประจำอยู่ที่นั่น จริงๆ เรื่องราวของออสการ์ไม่ค่อยเยอะเท่าไร ส่วนใหญ่หมอจะเน้นไปที่การเล่าเรื่องของผู้สูงอายุที่แทบทุกคนเป็นโรคสมองเสื่อม
สมองเสื่อม
รู้สึกช่วงนี้ฉันจะพบกับหนังหรือหนังสือเรื่องพวกนี้บ่อยจัง เหมือนมีอะไรสักอย่างเตรียมตัวฉันให้พร้อมสำหรับโรคนี้มั้ง (ฮา)
ในหนังสือ พยาบาลแมรี่เป็นคนบอกหมอเรื่องนี้ แต่หมอดูจะยังไม่ค่อยเชื่อนัก เขาเลยออกไปสัมภาษณ์ญาติของผู้เสียชีวิต และพบว่าออสการ์ทำแบบนั้นได้จริง ที่สำคัญคือทุกคนบอกว่าทั้งผู้ป่วยและญาติรู้สึกสบายใจเมื่อมีออสการ์มาอยู่ด้วย
การมีแมวอยู่ที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุทำให้สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนบ้านที่น่าอยู่มากขึ้น จริงๆ หลังอ่านเรื่องนี้จบก็มีอะไรหลายอย่างอยากเขียนถึง แต่ตอนนี้นึกอะไรไม่ออกเลยในภาวะที่แมวเก่าเครียดกันขนาดนี้
จบละกัน Y___Y
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น