จบไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ ภาค 3 ของหนังสือชุด a song of ice and fire ที่แบ่งเป็น 2 เล่มในภาคภาษาไทย a storm of swords หรือ ผจญพายุดาบ
ขอบอกว่าหนังสือทั้ง 2 เล่มนี้หนามากกกกกกกกกกกกกก ฉันเกลียดหนังสือหนาๆ เพราะนอกจากจะหนักแล้ว ยังยืดเยื้อต่อเนื่องแบบหยุดไม่ได้ หรือไม่อยากหยุด
เนื้อหาในเล่ม 3.1 มีทั้งสนุกและน่าเบื่อ ที่น่าเบื่อก็คือการตัดสลับไปที่เดแนรีสกับจอน มันดูราวกับเอา 3 เรื่องมาเล่าพร้อมๆ กัน เรื่องของ 2 คนนั้นแทบไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเนื้อหาหลักที่อยู่ในพื้นที่ก่อสงครามชิงดินแดน และพอกลางๆ เล่ม ก็พบว่ามีเรื่องแตกไปอีกเรื่องของแบรน มันน่าเบื่อมากๆ เลยค่ะ
อีกส่วนที่น่าเบื่อคือรายละเอียดยิบย่อยบางอย่างในบทลำนำหรืออะไรพวกนั้น
เนื้อหาที่สนุกอยู่ตรงส่วนอื่นที่เหลือ (ยกเว้นซานซากับแคตลิน) นั่นคือการต่อสู้กันด้วยดาบและสมอง
จบ 3.1 รู้สึกเนื้อเรื่องชักจะเข้ารกเข้าพงไปเรื่อย ลูกหมาป่าทั้ง 6 (เหล่าสตาร์คกับสโนว์) ก็ยังไม่ได้กลับมาเจอกันซะที อ่านแล้วเหนื่อยใจ เนื้อเรื่องก็ยืดเยื้อออกไปจนชักจะน่าเบื่อ
พอเริ่มกลางๆ เล่ม 3.2 เนื้อเรื่องก็เริ่มสนุกเข้ามาอีก มาพีคสุดก็ตอนงานวิวาห์เลือดทั้ง 2 งาน และตะล่อมจนเนื้อเรื่องส่วนจอน สโนว์กับผากำแพงกลับมาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอีกครั้ง
พออ่านจบภาคนี้ก็รู้สึกว่าหลายคนที่เคยคิดว่าเลวในเล่มแรกๆ ก็ไม่ได้เลวนักจนดำมืดไปซะหมด เช่น เจมี แลนิสเตอร์ ก็เป็นเหมือนเด็กที่ประสบความสำเร็จแต่วัยเยาว์ หลงตัวเอง หลงผิดไปช่วงหนึ่ง จนชีวิตพลิกผันจนเริ่มได้คิด หรือสแตนนิส บาราเธียน เองก็ไม่ใช่คนเลวร้าย แค่ว่าเป็นคนตรงผ่าซากเกินไปเท่านั้นเอง
คนอื่นๆ ยังไม่รู้นัก
แต่แคตลินก็ยังเป็นแคตลิน ซานซาก็ยังเป็นซานซา ยังน่ารำคาญเหมือนเดิมทั้งคู่
คนที่น่าเห็นใจที่สุดก็คือทีเรียน แลนนิสเตอร์ เขาไม่ใช่คนเลวแค่ปากเสีย แต่ถูกครอบครัวและทุกคนตัดสินว่าเลวร้ายเนื่องจากหน้าตาน่าเกลียดและร่างกายที่ผิดแปลก เขาเป็นคนที่มองโลกในความเป็นจริงอย่างที่สุด ต้องมารอดูกันต่อไปว่าเขาจะเอาตัวรอดต่อไปได้อย่างไรกัน
เอาล่ะ เตรียมตัวไปต่อในเล่มที่ 4 a feast for crows หรือกาดำสำราญเลือด
++++++++++++++++++++++++++++++++
เมื่อวันก่อนไปเดินร้านหนังสือ Kinokuniya แล้วก็เลยเดินโฉบไปที่มุมหนังสือแฟนตาซีภาษาอังกฤษที่ไม่เคยเดินเข้าไป เห็นชั้นนึงมีหนังสือของ JRR Tolkien อยู่เต็มชั้น ข้างๆ กันก็มีหนังสือชุด a storm of swords หลายหลายเวอร์ชั่นมากๆ ทั้งปกแข็งสวยหรู ใส่กล่อง หนังสือปกอ่อนเล่มเล็ก ปกอ่อนเล่มใหญ่ที่มีภาพปกต่างๆ กันไป เยอะมากๆ ค่ะ
ไม่อยากได้ แต่อยากอ่าน มีให้ยืมมั้ยเนี่ย (เป็นโรคไม่อยากเก็บสะสม)
++++++++++++++++++++++++++++++++
มีบางวันเหมือนกันที่อยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ในเล่มต่อๆ ไป ฉันเลยเข้าไปหาดูคลิปสั้นๆ ของซี่รี่ส์เรื่อง game of thrones เหมือนแอบดูตอนเฉลยอยู่เหมือนกันนะ มันทำให้พอจะมีกำลังใจอยากอ่านหนังสือหนาๆ เล่มนี้ต่อไปได้จนตลอดรอดฝั่ง 5555 ขี้โกงเลยล่ะ
ขอบอกว่าหนังสือทั้ง 2 เล่มนี้หนามากกกกกกกกกกกกกก ฉันเกลียดหนังสือหนาๆ เพราะนอกจากจะหนักแล้ว ยังยืดเยื้อต่อเนื่องแบบหยุดไม่ได้ หรือไม่อยากหยุด
เนื้อหาในเล่ม 3.1 มีทั้งสนุกและน่าเบื่อ ที่น่าเบื่อก็คือการตัดสลับไปที่เดแนรีสกับจอน มันดูราวกับเอา 3 เรื่องมาเล่าพร้อมๆ กัน เรื่องของ 2 คนนั้นแทบไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเนื้อหาหลักที่อยู่ในพื้นที่ก่อสงครามชิงดินแดน และพอกลางๆ เล่ม ก็พบว่ามีเรื่องแตกไปอีกเรื่องของแบรน มันน่าเบื่อมากๆ เลยค่ะ
อีกส่วนที่น่าเบื่อคือรายละเอียดยิบย่อยบางอย่างในบทลำนำหรืออะไรพวกนั้น
เนื้อหาที่สนุกอยู่ตรงส่วนอื่นที่เหลือ (ยกเว้นซานซากับแคตลิน) นั่นคือการต่อสู้กันด้วยดาบและสมอง
จบ 3.1 รู้สึกเนื้อเรื่องชักจะเข้ารกเข้าพงไปเรื่อย ลูกหมาป่าทั้ง 6 (เหล่าสตาร์คกับสโนว์) ก็ยังไม่ได้กลับมาเจอกันซะที อ่านแล้วเหนื่อยใจ เนื้อเรื่องก็ยืดเยื้อออกไปจนชักจะน่าเบื่อ
พอเริ่มกลางๆ เล่ม 3.2 เนื้อเรื่องก็เริ่มสนุกเข้ามาอีก มาพีคสุดก็ตอนงานวิวาห์เลือดทั้ง 2 งาน และตะล่อมจนเนื้อเรื่องส่วนจอน สโนว์กับผากำแพงกลับมาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอีกครั้ง
พออ่านจบภาคนี้ก็รู้สึกว่าหลายคนที่เคยคิดว่าเลวในเล่มแรกๆ ก็ไม่ได้เลวนักจนดำมืดไปซะหมด เช่น เจมี แลนิสเตอร์ ก็เป็นเหมือนเด็กที่ประสบความสำเร็จแต่วัยเยาว์ หลงตัวเอง หลงผิดไปช่วงหนึ่ง จนชีวิตพลิกผันจนเริ่มได้คิด หรือสแตนนิส บาราเธียน เองก็ไม่ใช่คนเลวร้าย แค่ว่าเป็นคนตรงผ่าซากเกินไปเท่านั้นเอง
คนอื่นๆ ยังไม่รู้นัก
แต่แคตลินก็ยังเป็นแคตลิน ซานซาก็ยังเป็นซานซา ยังน่ารำคาญเหมือนเดิมทั้งคู่
คนที่น่าเห็นใจที่สุดก็คือทีเรียน แลนนิสเตอร์ เขาไม่ใช่คนเลวแค่ปากเสีย แต่ถูกครอบครัวและทุกคนตัดสินว่าเลวร้ายเนื่องจากหน้าตาน่าเกลียดและร่างกายที่ผิดแปลก เขาเป็นคนที่มองโลกในความเป็นจริงอย่างที่สุด ต้องมารอดูกันต่อไปว่าเขาจะเอาตัวรอดต่อไปได้อย่างไรกัน
เอาล่ะ เตรียมตัวไปต่อในเล่มที่ 4 a feast for crows หรือกาดำสำราญเลือด
++++++++++++++++++++++++++++++++
เมื่อวันก่อนไปเดินร้านหนังสือ Kinokuniya แล้วก็เลยเดินโฉบไปที่มุมหนังสือแฟนตาซีภาษาอังกฤษที่ไม่เคยเดินเข้าไป เห็นชั้นนึงมีหนังสือของ JRR Tolkien อยู่เต็มชั้น ข้างๆ กันก็มีหนังสือชุด a storm of swords หลายหลายเวอร์ชั่นมากๆ ทั้งปกแข็งสวยหรู ใส่กล่อง หนังสือปกอ่อนเล่มเล็ก ปกอ่อนเล่มใหญ่ที่มีภาพปกต่างๆ กันไป เยอะมากๆ ค่ะ
ไม่อยากได้ แต่อยากอ่าน มีให้ยืมมั้ยเนี่ย (เป็นโรคไม่อยากเก็บสะสม)
++++++++++++++++++++++++++++++++
มีบางวันเหมือนกันที่อยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ในเล่มต่อๆ ไป ฉันเลยเข้าไปหาดูคลิปสั้นๆ ของซี่รี่ส์เรื่อง game of thrones เหมือนแอบดูตอนเฉลยอยู่เหมือนกันนะ มันทำให้พอจะมีกำลังใจอยากอ่านหนังสือหนาๆ เล่มนี้ต่อไปได้จนตลอดรอดฝั่ง 5555 ขี้โกงเลยล่ะ
(ภาพจาก https://www.hdwallpapers.in/game_of_thrones-wallpapers.html)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น