หนังสือ Journal จัดระเบียบใจ : จดบันทึกเพื่อค้นหาตัวตน

หนังสือ Journal จัดระเบียบใจ เป็น How To อีกเล่มที่เราสนใจตอนไปเดินงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ซื้อ ในงานมีหลายเล่มที่น่าสนใจ แต่ช่วงนี้ประหยัดได้ก็ประหยัด ระหว่างงานค้นหาดูใน TK park เห็นว่ามีให้ยืม เลยตั้งใจว่าจะยืมอ่านแทน

เล่มนี้มีคนจองอ่านอยู่ กว่าจะได้มาก็หลายวัน มีเวลาอ่าน 2 สัปดาห์ และยืมต่อไม่ได้แล้ว (หมายถึงยืดระยะการยืมค่ะ- การยืมหนังสือจาก TK park) มีคนรออ่านอยู่ด้วย ใช้เวลาอ่าน 2 วันแบบไม่รีบก็จบ

แก่นหลักในหนังสือ Journal จัดระเบียบใจ

หนังสือ Journal จัดระเบียบใจ พูดถึงการจดบันทึกที่ช่วยในการจดจ่อ หรือ Mindfulness การจดจ่อก็เป็นการทำสมาธิวิธีหนึ่ง สำหรับการจดบันทึก ผู้เขียนบอกว่านอกจากการจดจ่อแล้ว ยังทำให้สนุก แก้ปัญหาส่วนตัว แก้เครียด ได้ด้วย

ในหน้า 19 ของหนังสือเขียนถึงเรื่องนี้ไว้ว่า

สิ่งจำเป็นเพื่อการมีชีวิตในสังคมที่ซับซ้อนและคาดเดาได้ยากแบบนั้นก็คือ “การรับรู้และเอาใจใส่อย่างลึกซึ้งต่อสถานการณ์ของตัวเองในปัจจุบัน (จุดยืน สภาพร่างกาย และสภาพจิตใจ) ความสามารถ (ทักษะและเอกลักษณ์ของตัวเอง) เครื่องมือที่ใช้ได้ (ความรู้และความเชี่ยวชาญ) รวมถึงทรัพยากร (คนที่จะข่วยเหลือและเงินทุน)”

ซึ่งจะเกิดได้ก็จากการรู้จักตัวเองผ่านการจดบันทึกแบบจดจ่อ

นอกจากนั้นการจดบันทึกยังช่วยให้เกิดความรู้สึกด้านบวก ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เปลี่ยนมุมมองต่อเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวัน

การจดบันทึก

การจดบันทึกที่ผู้เขียนแนะนำในหนังสือ Journal จัดระเบียบใจ เล่มนี้เป็นการจดแบบปล่อยให้มือเขียนไปโดยไม่ต้องคิด ซึ่งเป็นการเปิดเผยสิ่งที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของเรา บางครั้งก็ทำให้เราได้รู้ว่าตัวเราคิดแบบนี้ด้วยหรือ? เมื่อได้มาอ่านทวนก็จะเป็นการเรียนรู้ตัวตนของเรา ว่าอาจมีหลายตัวตนที่เราไม่เคยรู้ว่ามี ได้ค้นหาตัวตนที่แท้จริง

คนที่ผ่านเรื่องร้ายในชีวิต เมื่อได้จดบันทึก็จะช่วยคลายความเจ็บปวดได้ ทั้งยังได้เรียนรู้การปรับปรุงตัวเอง ทั้งความคิดและการกระทำ

ผู้เขียนแนะนำว่าควรใช้การจดบันทึกด้วยมือ ใช้ปากกาหรือดินสอ จดใส่กระดาษ แทนที่จะใช้การพิมพ์ เป็นการกระตุ้นการทำงานของสมอง นอกจากนั้นในหนังสือยังมีหัวข้อให้เราเลือกในการจด หรือกำหนดหัวข้อขึ้นมาเองก็ได้ เช่น

ถ้าใช้กระเป๋าวิเศษของโดราเอมอนได้เป็นเวลา 1 ปี (เล่นกับสมมติฐานที่เป็นไปไม่ได้)
คำไว้อาลัยที่อยากได้ยินที่งานศพตัวเอง (นึกถึงเรื่องที่สำคัญจริงๆ สำหรับตัวเอง)
เรื่องที่ไม่อยากให้ซ้ำรอยเดิมแต่ก็ซ้ำรอยเดิมหลายครั้งต่อหลายครั้ง (เผชิญหน้ากับตัวตนที่ไม่อยากรับรู้)
เรื่องที่มักถูกคนอื่นชม (ตามหาตัวตนอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง)
เหตุผลที่ฉันไม่ต้องเป็นคนสมบูรณ์แบบ (เมื่อความมั่นใจสั่นคลอน)

การจดบันทึกมีการแบ่งออกเป็นหลายแบบ ทั้งแบบระยะยาว 20 นาที ระยะกลาง 10-15 นาที และระยะสั้น 5 นาที แต่ละแบบช่วยในเรื่องที่แตกต่างกันออกไป

ข้อดีของการจดบันทึก

ข้อดีที่ผู้เขียนได้รวบรวมจากงานวิจัยตั้งแต่ช่วงปลายปี 1980-2000 และที่เขาได้เพิ่มเติมเข้าไป เช่น

ช่วยในด้านสุขภาพกาย ทั้งระบบภูมิคุ้มกัน ความดันโลหิตดีขึ้น
ช่วยในด้านสุขภาพใจ ทำให้อารมณ์ดี มีความสุข บาดแผลในใจได้รับการเยียวยา ซึมเศร้าน้อยลง
ด้านการงาน ช่วยให้ความจำดี ขาดงานน้อยลง สื่อสารกับคนอื่นดีขึ้น
เพิ่มสติปัญญา ทั้งไอคิวและอีคิว มีความเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น
ผ่อนคลาย มีความคิดสร้างสรรค์

การจดบันทึกตามแบบในหนังสือ ไม่ใช่การจดเพื่อหาคำตอบที่ถุกต้อง แต่เป็นการค้นหาตัวเอง เปิดใจ ผ่อนคลาย และปล่อยวาง