เรื่องเล่าจากหนังสือ 3 แมว 2 คน : EP 8 ก่อนหน้าแมว เราเลี้ยงหมา


ก่อนหน้าที่จะมีแมวตัวแรก บ้านเรารับเลี้ยงหมาไว้จำนวนหนึ่ง

เริ่มต้นมาจากตัวแม่ที่เป็นหมาประจำหมู่บ้าน ช่างอ้อนเป็นที่หนึ่งชื่อเจ้าตาล มันเป็นหมาสีน้ำตาลพันธุ์ทางที่พบเห็นได้ทั่วประเทศ ส่วนคำว่า ‘หมาประจำหมู่บ้าน’ ก็หมายถึงหมาส่วนรวม ใครมีอะไรก็ให้มันกิน ไม่มีเจ้าของที่แน่นอน ฉันเองก็เลี้ยงบ้าง เล่นกับมันบ้าง บางทีเบื่อๆ พอไม่คุยกับชาวบ้าน ฉันก็ไปนั่งคุยกับมันเนี่ยแหละ (คนแถวนี้คงเริ่มทำใจได้แล้วละว่ายัยบ้านี่คุยกับหมาได้)

เจ้าตาล (ซ้าย) กับ แฟนหนุ่ม (ขวา) หมาจรที่มาอาศัยที่นี่ถาวร

พอมันคลอดลูก เจ้าตาลก็พาลูกๆ ให้มาหาของกินที่บ้านของเรา จนลูกหมาพวกนั้นมาสิงสถิตอยู่ที่บ้าน เป็นหมาของเราไปโดยปริยาย

ตอนแรกเหมือนจะมีลูกหมาราว 4-5 ตัวได้ จำไม่ได้แล้วว่าตัวอื่นๆ ไปอยู่ไหนกันหมด เหลืออยู่กับเราแค่ 2 ตัว ชื่อไอ้แป๋ (ตัวเมีย) กับไอ้ดำ (ตัวผู้) บวกกับเจ้าตาลตัวแม่ ทั้งหมด 3 ตัว

เจ้าตาลพาลูกมาให้เราเลี้ยงดู
เหลืออยู่กับเราแค่ ด.ญ.แป๋ กับ ด.ช.ดำ

ไอ้แป๋ได้ชื่อมาจากขาหลังที่แป ๆ ป๋าเลยตั้งชื่อว่าแป๋ แต่จะว่าไปก็พ้องกับคำว่า ‘ป๋า’ ไม่น้อยเลย (ฮ่าๆๆๆ) ส่วนไอ้ดำชื่อก็บอกว่าตัวดำ ตัวเล็กสุดแต่ก็ซ่าที่สุด ชอบออกไปไล่ฟัดกับหมาตัวอื่น แล้วเจ็บตัวกลับมาทุกครั้ง

เจ้าดำตอนเด็กหน้าแบ๊ว โตขึ้นก็ยังตัวเล็ก ชอบนอนในท่อระบายน้ำ

แล้วไอ้แป๋ก็แตกหน่อเป็นลูกหมาอีก 7 ตัวในเวลาไม่นาน ช่วงที่มันคลอดลูกนี่ทุลักทุเลมากๆ เนื่องจากมันเป็นคุณแม่วัยใสมือใหม่ของแท้ มันไปเบ่งปุ๊ออกมาตัวแรกที่ใต้ถุนบ้านเพื่อนบ้าน สถานที่ที่มันไปคลอดลูกน่ะเป็นที่โล่ง ๆ มีกองไม้เป็นแผ่นเรียงอยู่ไม่เยอะนัก ทำเลไม่ดีเลย แม่วัยใสไร้ประสบการณ์

คลอดออกมาตัวแรกมันคงตกใจ เลยทิ้งลูกวิ่งมาบ้านเรา มาหาฉันน่ะแหละ พยายามจะเข้าไปในครัว คงจะขอเข้าไปคลอดลูกที่เหลือในครัวบ้านเรา ป๋าต้องรีบไล่มันออกไป เพราะเราไม่ได้เลี้ยงหมาในบ้าน ครัวก็ไม่ค่อยจะกว้างนัก ไม่สะดวกเลย

แม่แป๋ กับเด็กๆ แรกคลอด

ป๋าจึงต้องเร่งทำเพิงแบบด่วนที่มุมหนึ่งหน้าบ้าน มันเดินกระวนกระวายไปมา ไม่นานนักเพิงแบบเร่งด่วนก็เสร็จ แต่มันยังไม่เข้าไปคลอด ได้แต่วิ่งไปวิ่งมาระหว่างบ้านเรากับกองไม้ที่ลูกตัวแรกนอนร้องและดิ้นอยู่ จนป๋าต้องไปอุ้มลูกตัวแรกล่อมันเข้าไปในเพิง มันถึงเข้าไปในเพิง

แต่ก็ยังไม่จบ มันยังไม่ยอมอยู่ในเพิง พยายามจะวิ่งเข้าบ้านมาหาฉันตลอดเวลา ฉันเลยต้องเข้าไปนั่งเป็นเพื่อนมันจนคลอดครบทั้ง 7 ตัว กับฉันและป๋ามันไม่หวงลูกเลย จะอุ้มจะทำอะไรก็ได้ แต่กับคนอื่นยังมีขู่บ้าง วันหนึ่งมอร์ไซค์ของพนักงานไปรษณีย์ขี่เข้ามาในหมู่บ้าน มันวิ่งออกมาจากเพิง ส่งเสียงขู่น่ากลัวแบบที่ฉันไม่เคยเห็น มันหวงลูกมากๆ

ลูกดกมาก นี่คือรุ่นหลานล่ะ
กินกันเก่ง อวบอ้วนกันทุกตัวจนน่าเอาไปทำหมูหัน เอ้ย หมาหัน
แอบเข้ามานอนในบ้านตอนป๋าไม่เห็น 555

คงเป็นเพราะเพิงหน้าบ้านเป็นพื้นทราย เลยมีแมลงหลบซ่อนอยู่ วันดีคืนดีก็มีแมลงเข้ามาแอบกัดลูกหมาจนหางบวมไปหลายตัว ต้องพาไปให้หมอกรีดแผลเอาหนองออกทุกครั้งไป มีตัวหนึ่งที่ขนฟู มองไม่เห็นรอยบวมที่คอด้านหลัง จนกระทั่งมันเริ่มป่วย ตัวร้อน นอนซม

คงเพราะมันขนฟู แม่มันเลยไม่เห็นและไม่ได้เลียแผลให้ มีครั้งหนึ่งตอนที่มันเริ่มโต หนองที่ผิวหนังตรงคอก็โตขึ้นอีกครั้ง เราพามันไปกรีดแผลเพื่อรักษา เนื่องจากเด็กเกินกว่าจะวางยา เลยต้องกรีดสดๆ เราช่วยกันจับขาในขณะที่มันดิ้นสุดฤทธิ์และร้องโหยหวน ผลก็คือวันต่อมามันเดินไม่ได้ ชันตัวลุกไม่ได้เลย ก็คิดว่าต้องเลี้ยงหมาพิการเสียแล้ว

ฉันต้องอุ้มไปอุ้มมาเหมือนลูกน้อย พอวางลงพื้นหญ้ามันก็พยายามดิ้นรนเพื่อลุกขึ้นยืน แล้วก็ล้มคว่ำคะมำหงายตลอด เป็นแบบนี้อยู่หลายวันจนอาการมันดีขึ้น เริ่มลุกเดินได้ตามปกติ สงสัยวันกรีดหนองคงดิ้นแรงไปหน่อยจนขาล้าน่ะเอง

เจ้าตูบผิวหนังตรงคอเป็นหนองตั้งแต่เด็กจนโตไม่หายขาด

เนื่องจากป่วยจนไม่กล้ายกให้คนอื่น มันจึงเป็นตัวเดียวที่เรารับเลี้ยงไว้ ส่วนพี่น้องอีก 6 ตัว ถูกส่งต่อไปให้คนอื่นรับเลี้ยงต่อไป เราตั้งชื่อมันว่า ‘ไอ้ตูบ’ มันเป็นหมาตัวผู้ สรุปว่าตอนนี้หมาก็มาอยู่กับเราได้ 4 ตัว คือตาล (ยาย) แป๋ (แม่) ดำ (น้าชาย) ตูบ (ลูกชาย) ตาลเป็นตัวที่ไปๆ มาๆ ไม่ได้เป็นหมาของเราอย่างเป็นทางการ

ตอนเด็กๆ ตูบก็ป่วยกระเสาะกระแสะด้วยอาการหนองที่คอตลอดเวลา เราก็นึกว่ามันจะไม่โตซะแล้ว กลายเป็นว่าผ่านไปไม่นานนักมันโตขึ้นสูงแต่ผอมเพรียว สีน้ำตาลเข้มต่างจากแม่ จริงๆ มันเป็นหมาที่ไม่เคยกัดใครนะ แต่ท่าทางมันคงน่ากลัว

เคยมีแฟนของเพื่อนป๋าพาลูกเล็กมาเดินเล่นในหมู่บ้าน (เขาไม่ได้พักในหมู่บ้านนี้) พอเห็นไอ้ตูบเดินอยู่ก็ตกใจ เอาของขว้างใส่มัน ทั้งที่มันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ตอนหลังพอมันเห็นผู้หญิงคนนี้มา มันก็ปรี่เข้าใส่จะกัด คราวนี้เอาจริง จนฉันต้องคอยออกไปดูอยู่บ่อยๆ

จากหมาอารมณ์ดีมันก็กลายเป็นหมาอารมณ์ร้าย เพราะว่าคนไปทำร้ายมันนั่นเอง

ยังระแวงกันอยู่

อาการบวมที่คอยังคงกำเริบตอนที่มันโต เราต้องพาไปวางยาเพื่อกรีดแผลอีกครั้ง ครั้งนี้มันหยุดหายใจจนต้องปั๊มหัวใจให้มันกลับคืนมา หลังจากนั้นมันก็ยิ่งอารมณ์ร้ายมากขึ้น ไล่กัดทั้งคนแปลกหน้าและคนอื่น ๆ ในหมู่บ้าน ถ้าคนนั้นบ้านอยู่ห่างไปนิดนึง และเดินมาบ้านเรา มันก็ไปกัดเขา — ถ้ามันเดินไปบ้านเขามันไม่กัด คือจะกัดก็ต่อเมื่อคนนั้นเข้ามาในอาณาเขตของมัน

เพื่อนบ้านคนหนึ่งที่บ้านอยู่ห่างไป 2-3 หลัง เขาเคยหาข้าวให้ไอ้ตูบกินตอนที่เราเข้ากรุงฯ พอเขามาหาเราที่บ้าน มันกลับเอาปากงับที่ขาเขาเบา ๆ เหมือนเตือนว่า “นี่ถิ่นป๋มนะ อย่าเข้ามาสิ” เอากะมันสิ

เหมียวก็อยากเล่นแหละ ดูออก

ช่วงนี้เองที่เจ้าเหมียวเริ่มเข้ามาอยู่กับเรา ไอ้ตูบชอบมาเดินด้อม ๆ มอง ๆ หาเจ้าเหมียวที่ประตูหลังบ้าน แม้มันจะดุร้ายไล่กัดคน แต่กับเจ้าเหมียวมันกลับอยากผูกมิตร เจ้าเหมียวตอนแรกก็ยังระวัง แอบซ่อนตัวมองอยู่ เมื่อเวลาผ่านไป เจ้าเหมียวกับไอ้ตูบก็เริ่มเข้าใกล้กันได้มากขึ้น แต่ยังอยู่ในระยะระวังภัย สถานการณ์เริ่มดีขึ้นจนกระทั่ง

วันหนึ่ง เจ้าเหมียวเกิดเข้าไปหาไอ้ตูบตอนที่มันกำลังกิน ไอ้ตูบเป็นหมาที่หวงของกินมาก มันก็เลยหันกลับมาขย้ำเจ้าเหมียวซะกระเจิดกระเจิง แม้ว่าจะไม่ฝังคมเขี้ยวลงในตัวเจ้าเหมียว มีแต่น้ำลายหมาติดตามตัว แต่เจ้าเหมียวก็ตัดขาดจากไอ้ตูบโดยเด็ดขาด สิ้นสุดมิตรภาพระหว่างแมวกับหมาอย่างถาวร

และแล้ว…

ก่อนที่เจ้าบุญทิ้งจะมาเป็นน้องเจ้าเหมียว ก่อนที่เราจะย้ายเข้ากรุงเทพฯ เหล่าหมาก็ทยอยหายไปจากชีวิตของเรา

เจ้าตาล (ยายไอ้ตูบ) เนื่องจากมันอิจฉานังเหมียว มันมักมาแอบกัดเหมียวตอนเราไม่อยู่บ้าน เราก็เลยต้องไล่มันกลับไปเป็นหมาหมู่บ้านตามเดิม

จาก เด็กหญิงแป๋ เป็นนางสาวแป๋ และแม่แป๋ หมายิ้มได้

ลูกแป๋ก็ไปกินอาหารที่เขาวางยาเบื่อไว้ที่โรงงานใกล้หมู่บ้าน และหลบไปตายอยู่ที่ริมบ่อน้ำใกล้ ๆ บ้านโดยที่เราไม่รู้

2 ตัวนี่อยู่กันไม่ได้

ไอ้ดำช่วงหลังโดนเจ้าเหมียวรังแกบ่อยมาก เห็นไอ้ดำเป็นไม่ได้ เจ้าเหมียวเป็นต้องวิ่งไล่ตบ พอฉันวิ่งไล่จะเข้าไปห้ามทัพ กลับเหมือนยิ่งยุให้มันวิ่งไล่ไอ้ดำ น่าสงสารไอ้ดำมากๆ มันเริ่มหายตัวไปครั้งละหลายวัน และบ่อยขึ้นจนหายไปเลย

และไอ้ตูบ เนื่องจากหมู่บ้านไม่มีรั้วกั้น มันจึงออกไปติดสาวแถวบ้าน แล้วก็หายตัวไปเช่นกัน ตอนแรกยังคิดว่ามันคงจะกลับมาเอง ตอนออกไปนอกหมู่บ้านฉันก็ยังเฝ้ามองหามัน แต่มันก็หายไปเลย เป็นเวลาเนิ่นนานที่ฉันร้องไห้คิดถึงมัน

ทุกวันนี้ยังคงหวังว่าไอ้ดำกับไอ้ตูบที่หายไปในวันนั้น มันได้ไปอยู่กับเจ้าของใหม่ที่ดูแลมันได้ดีกว่าเรา และมีความเป็นอยู่สุขสบาย และป่านนี้ก็คงไปอยู่ดาวหมาอย่างมีความสุข

แท้จริงแล้วมีคนโรคจิตแอบกินหมา 5555

ส่วนแมวๆ เมื่อมาอยู่กันครบ 3 ตัว พี่เหมียว พี่ชู และน้องทิ้ง ทั้ง 3 ตัวก็ชอบรวมหัวกันวิ่งไล่ตบหมาในหมู่บ้านซะกระเจิง วันหนึ่งเคยได้ยินเสียงเด็กนักศึกษากลุ่มหนึ่ง (ลูก ๆ ของพนักงานที่หมู่บ้านนี่แหละ) ที่อยู่บ้านเลยไปหน่อยร้องเฮกันใหญ่ จับใจความได้ว่า

“แมววิ่งไล่หมาอะ” ได้ยินแล้วรู้เลยว่าเจ้า 3 ตัวนี่ก่อเรื่องอีกแล้ว จนต้องไปตามมันกลับมา เคยมั้ยอุ้มแมวตัวโตๆ 3 ตัวมาพร้อมๆ กันเพื่อพากลับบ้านน่ะ สนุกเชียวละ ต้องลองซะให้ได้เชียว -_-

ความคิดเห็น